ดูหนัง

ดูหนัง

ดูหนัง เจาะ 7 เกร็ดประวัติความเป็นมา ‘เจ้าของห้างหันแตร’ เจ้าของห้างสรรพสินค้าที่แรกในสยาม จากภาพยนตร์ ‘บุพเพสันนิวาส 2’

ดูหนัง ความน่าสนใจของภาพยนตร์ ‘บุพเพสันนิวาส ๒’ อาจจะไม่ใช่แค่ความฮา และความโรแมนติกให้ดูกันแบบเพลินๆฟินๆกันแค่เพียงหนึ่งเดียว เนื่องจากสิ่งที่ ‘รอมแพง’ และทีมเขียนบทของ GDH ได้ร่วมกันผสมผสานเข้าไปในบทภาพยนตร์ได้อย่างพอดีมันก็คือ เรื่องราวประวัติศาสตร์ในช่วงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยเฉพาะในภาพยนตร์ที่อ้างอิงมาจากเรื่องราวในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือรัชกาลที่ 3 เป็นหลัก

โดยเฉพาะในช่วงเวลานั้นมีคนต่างประเทศเดินทางเข้ามายังประเทศไทยด้วยจุดหมายมาก หนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ที่ถูกกล่าวถึงเอามาเป็นแรงจูงใจส่วนหนึ่งในภาพยนตร์ประเด็นนี้ก็คือ เรื่องราวยุ่งๆสำหรับในการนำเข้าเรือกลไฟขนาดมโหฬารที่มีชื่อว่า เอ็กสเปรส (Express) โดยพ่อค้าวานิชชาววิลาศ (ชาวฝรั่ง) นามว่า โรเบิร์ต ฮันเตอร์ (Robert Hunter) หรือ ‘นายห้างหันแตร’ ผู้จัดตั้งห้างสรรพสินค้าที่แรกในไทยนั่นเอง ดูหนัง

บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ 7 เรื่องราวของฮันเตอร์ พ่อค้าวาณิชชาวสก็อตผู้ฉลาด สู่ ‘นายหันแตร’ เจ้าของธุรกิจห้างฝาหรั่งสุดเปิ๊ดสะก๊าด จาก ‘หลวงอาวุธดีเลิศวานิช’ ขุนน้ำขุนนางคนมั่งคั่งผู้เปี่ยมด้วยทรัพย์แล้วก็บารมี และก็นายหันแตร อดีตกาลพ่อค้าผู้ถูกเนรเทศออกจากประเทศไทย

1. นายโรเบิร์ต ฮันเตอร์ ลูกเครือญาติพ่อค้าพ่อค้า

‘นายห้างหันแตร’ มีนามตามเชื้อชาติว่า โรเบิร์ต ฮันเตอร์ (Robert Hunter) กำเนิดเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ปี 1792 (พ.ศ. 2335) เป็นพ่อค้าพ่อค้าคนอังกฤษเชื้อสายสก็อต เดิมทีเกิดและก็อาศัยอยู่ที่เมืองกลาสโกว์ (Glasgow) ประเทศสก็อตแลนด์

ฮันเตอร์เกิดในตระกูลพ่อค้าชาวสก็อตที่มีฐานะมีเงินมีทองมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เชื้อสายโรเบิร์ตเป็นเชื้อสายพ่อค้าผู้ดำเนินการนำเข้าและก็ส่งออกสินค้าล้นหลามในหลายประเทศ เป็นผู้ส่งออกยาสูบจากอาณานิคมเวอร์จิเนีย (Colony of Virginia – อาณานิคมของอังกฤษที่ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือในขณะนี้) ไปยังประเทศฝรั่งเศส ต่อมาเครือญาติฮันเตอร์ได้หันมาผลิตรวมทั้งค้าขายแก้ว ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน

2. ‘บริติช แฟกตอรี’ ห้างฝาหรั่งของนายหันแตร

ชื่อของนายฮันเตอร์กลายเป็นที่โจษจัน เนื่องจากเข้ามาในฐานะพ่อค้าวานิชฐานะมั่งมี เขาแปลงเป็นที่รู้จักคุ้นเคยกับผู้หลักผู้ใหญ่ในราชสำนักสยาม สามารถเข้าๆออกๆราชสำนัก และก็แว่นแคว้นได้อย่างสะดวก ในระยะเวลาเพียงไม่นาน นายฮันเตอร์ก็เริ่มพูดภาษาไทยได้แคล่วคล่อง กระทั่งสุดท้าย ฮันเตอร์ก็เลยตัดสินใจจะลงหลักปักฐานค้าขายในสยาม

นายฮันเตอร์ได้เข้าเจรจาเพื่อขอซื้อที่ดินกับเจ้าพระยาพระคลังเก็บของ เพื่อใช้เพื่อสำหรับการก่อสร้างห้างสรรพสินค้า แต่ว่าด้วยกฏระเบียบการครองที่ดินเจาะจงไว้ว่า ไม่อนุญาตให้ชาวต่างประเทศเข้ามาถือครองที่ดิน แม้กระนั้นเมื่อไตร่ตรองความดีความชอบสำหรับการมอบให้อาวุธให้ราชสำนัก ในหลวงก็เลยทรงมอบให้เจ้าพระยาพระคลังเป็นผู้ดูแลหาที่ดินในกรุงเทพฯเพื่อฝาหรั่งฮันเตอร์ใช้ประกอบการค้าจากที่ขอ

เจ้าพระยาพระคลังจึงได้กราบทูลกับพระมหากษัตริย์ว่า การให้ฝาหรั่งเข้าซื้อที่ดินแลก่อสร้างอาคาร บางทีอาจสร้างความอลหม่านยุ่งยากในอนาคตข้างหน้าได้ ก็เลยขอกราบบังคมทูลให้ฮันเตอร์ ‘เช่า’ ที่ดินของตนเอง ที่ตั้งอยู่ริมน้ำเจ้าพระยา รอบๆตอนเหนือของถนนสะพานฉนวน (ปัจจุบันนี้เป็นบริเวณหน้าบริเวณหน้าวัดประยูรญาติวงศาคณาญาติวาสวรพิหาร เขตธนบุรี) น่าจะเป็นการสมควรกว่า

3. พาแฝดไทย ‘อิน-จัน’ ลือลั่นกึกก้องโลก

ย้อนหลังไปในปี พุทธศักราช 2367 ตอนที่นายหันแตรพึ่งตั้งห้างฝาหรั่งในกรุงเทพมหานคร ตามบันทึกบอกว่า เถ้าแก่หันแตรเป็นคนเจ้าสำราญ ชอบดื่มสุรา แล้วก็ชอบออกตรวจตราท่องเที่ยวด้วยการแล่นเรือไปทั่วประเทศไทย ในระหว่างท่องเที่ยวครั้งหนึ่ง นายห้างหันแตรได้ยินเรื่องประหลาดว่า มีชาวประเทศไทยผู้หนึ่งดูประหลาด เนื่องจากว่าเป็นฝาแฝดตัวติดกัน หาเลี้ยงชีพอยู่ขอบปากแม่น้ำแม่กลอง ด้วยความต้องการอยากจะรู้อยากจะเห็น เถ้าแก่จึงเดินเรือไปยังแม่กลองเพื่อสอบถามหาฝาแฝดรายนี้

ตราบจนกระทั่งเขาได้พบกับ ‘อิน-จัน’ เด็กวัยหนุ่มแฝดที่มีตัวติดกัน ด้วยหัวกิจการค้าที่มองเห็นว่าในขณะนั้น ชาวอเมริกาแล้วก็ยุโรปกำลังนิยมชมชอบในคน สัตว์ ข้าวของพิลึก เขาก็เลยคิดแผนอยากได้อินรวมทั้งจันไปโชว์ตัวเพื่อหาเงิน จวบจนกระทั่งเมื่อได้ตามฝาแฝดไปที่บ้าน ก็เลยได้พบกับนางนาก แม่ของอิน-จัน และก็ทราบว่าทั้งสองเป็นลูกครึ่งไทย-จีนที่เกิดในสมัยรัชกาลที่ 2 มีความรู้และความเข้าใจพูดได้ทั้งสองภาษา และว่ายน้ำได้อย่างกระชุ่มกระชวย catcamthemovie

4. นายหันแตร กับรั้วแดงที่วัดประยุรวงศาวาส ดูหนัง

นายหันแตรนั้นยังมีความเกี่ยวข้องกับวัดประยุรวงศาวาสอีกด้วย เพราะว่าตามเรื่องราวของสงฆ์นั้นสร้างขึ้นโดย สมเด็จเจ้าพระยาบรมวงศ์ตระกูล หรือเจ้าพระยาพระคลังเก็บของ เจ้าขุนมูลนายคนคุ้นเคยของนายหันแตร ที่ได้ถวายสวนกาแฟข้างบ้านเพื่อสร้างเป็นอารามหลวง แล้วก็ได้พระราชทานชื่อ ‘วัดประยุรวงศาวาส’ จากรัชกาลที่ 3

ถัดมา นายหันแตรได้นำเอารั้วเหล็กสีแดง ที่กำลังนิยมในลอนดอน ณ ตอนนั้น ใส่เรือกำปั่นมาบอกขาย เจ้าพระยาพระคลังก็เลยใช้กรรมวิธีนำเอาน้ำตาลทราย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ไทยที่ยุโรปกำลังปรารถนาไปแลกมาด้วยอัตราน้ำหนักต่อน้ำหนัก และก็ได้นำรั้วนี้มอบแก่กษัตริย์เพื่อนำไปใช้ล้อมกำแพงวัง แต่ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ไม่ทรงโปรด เหตุเพราะมีราคาแพง เจ้าพระยาพระคลังเก็บของก็เลยขอพระราชทานนำเอารั้วแดงนี้มาล้อมเป็นกำแพงวัดประยุรวงศาวาสแทนเพื่อเป็นพุทธบูชา ดูหนัง

5. ความกล้าหาญอำนาจอำนาจบาตรใหญ่คับฟ้าเทียมเจ้า

นายหันแตรแปลงเป็นชาวฝาหรั่งที่อยู่อาศัยในประเทศไทยมายาวนาน พูดภาษาไทยได้คล่องแคล่ว แล้วก็เข้าใจชาวสยามอย่างดีเยี่ยม ก็เลยตั้งมั่นว่าจะดำเนินชีวิตที่เหลืออาศัยอยู่ในประเทศไทย ต่อมา นายหันแตรมีเมียชื่อว่า แองเจลิที่นา (Angelina) มีชื่อไทยว่า สินทรัพย์ เป็นทายาทรุ่นที่ 4 ของ คอนสแตนติน ฟอลคอน (พระยาวิไชเยนทร์) ขุนนางชาวกรีกที่รับราชการยุคกรุงศรีอยุธยา ชาวบ้านเรียกว่าท่านผู้หญิงทรัพย์ ซึ่งได้เปลี่ยนมาเป็นหัวหน้าชุมชนกะดีจีน (กุฎีจีน) ในเวลาต่อมา

แม้กระนั้นด้วยในขณะนี้ นายหันแตรนั้นมีอีกทั้งกำลังทรัพย์สมบัติและบารมีอย่างเต็มเปี่ยม มีหน้ามีตา เข้านอกออกใน รู้จักคนในราชสำนักอย่างทั่วถึง ทำให้นายหันแตรเริ่มแสดงกริยาอำนาจบาตรใหญ่ และไม่ชอบมาพากลหลายต่อหลายครา ตัวอย่างเช่น เสนอขายพรมแก่ราชสำนักทั้งๆที่มิได้สั่ง ในช่วงเวลาที่พระราชาทรงประกาศห้ามดูดฝิ่น นายหันแตรก็ลักลอบนำเข้าฝิ่นจากจีนมาขายในประเทศไทยโดยที่เจ้าขุนมูลนายไทยเองก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ครั้นเมื่อเจ้าขุนมูลนายจะจัดแจง นายหันแตรก็มักเบี่ยงบ่ายเฉไฉ โดยอ้างถึงชมรมระหว่างประเทศ หรือไม่ก็ข่มขู่ว่า ตัวเองคุ้นเคยกับทางการอังกฤษ และก็จะฟ้องให้ทางการนำเอาเรือรบมาปิดปากอ่าว เป็นต้น

6. เรือกลไฟเอ็กสเปรส สาเหตุหันแตรถูกเนรเทศ

และอีกในกรณีที่นับว่าเป็นเหตุใหญ่นายห้างหันแตรเข้าไปมีหน้าที่เกี่ยวเนื่องกับการบ้านการเมืองสยามก็คือ ณ เวลานั้น ไทยกำลังจะมีกรณีที่มีการพิพาทกับวัวชินไชที่นา (Cochinchina อาณานิคมที่ตั้ง ณ รอบๆตอนใต้ของเวียดนามในขณะนี้) หลวงอาวุธวิเศษวานิชจึงได้เสนอขายเรือกลไฟที่มีชื่อว่า เอ็กสเปรส (Express) เรือจักรละอองน้ำขนาดใหญ่ที่ลอยลำมาจากท่าเรือเมืองลิเวอร์พูล (Liverpool) ให้แก่ไทยในราคา 2,000 ชั่ง เรือเอ็กสเปรสเป็นเรือกลไฟขนาดใหญ่ใหญ่โต เมื่อลอยเข้ามาเทียบท่าในน่านน้ำ ประชาชนต่างตกตะลึงในความใหญ่โตแล้วก็น่าพิศวงในฐานะ “เหล็กลอยน้ำ”

ดูหนัง เมื่อเจ้าพนักงานเห็นว่าแพงไป แถมยังทรุดโทรมขึ้นสนิม จึงบอกปัดไม่ยินยอมซื้อ นายหันแตรก็เลยโกรธ แล้วก็พูดจาชั่วโคตร อ้างว่าในหลวงทรงตรัสให้ซื้อ หากไม่ซื้อ ตนจะไปผูกไว้ที่วังน้ำ และข่มขู่ว่าจะฟ้องให้รัฐบาลอังกฤษนำเรือรบเข้ามาในน่านน้ำสยามด้วย นอกเหนือจากนั้นยังบังคับให้ซื้อปืน 200 กระบอกที่บรรทุกมาพร้อมกับเรือเอ็กสเปรส ทั้งที่กองทัพประเทศไทยปรารถนาเพียง 100 กระบอก แถมยังข่มขู่เพราะว่าถ้าสยามไม่ซื้อ จะนำไปขายให้กับโคคุ้นชินไชนาที่เป็นศัตรูกับสยามแทน

7. ฉากชีวิตสุดท้ายของนายหันแตร

เมื่อกาลเข้าสู่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 มีการพบว่านายหันแตรที่ถูกเนรเทศไปแล้ว ได้กลับเข้ามาเมืองไทยอีกรอบในระยะสั้นๆรวมทั้งมีบันทึกว่า ได้กลับเข้ามาดำเนินงานเป็นเลขานุการของ เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ตอน บุนนาค) จนตราบเท่ามรณะในวันที่ 19 เมษายน พุทธศักราช 2391 สิริอายุได้ 56 ปี

หมอบรัดเลย์ได้บันทึกข่าวมรณกรรมของนายหันแตร ไว้ภายในหนังสือพิมพ์บางกอก รีคอร์ดเดอร์ ความว่า :-

“ณ วันพุธ เดือนห้า แรมเก้าค่ำ ปีวัว สัพตศก, ไม่ศเตอโรเบิดหันแตร ผู้เปนล่ามแลเจ้าหน้าที่ในเจ้าพระยาศรีสุริยวงษ ถึงอนิจกำม์ที่บ้านเขา มีข่าวสารว่าถึงแก่กำม์เนื่องจากว่ากินเหล้า”

(ณ วันพุธ เดือนห้า แรมเก้าค่ำ ปีวัว *สัปตศก มิสเตอร์โรเบิร์ดหันแตร ผู้เป็นล่ามรวมทั้งเสมียนในเจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์ มรณกรรมที่บ้านเขา มีข่าวสารว่าสิ้นใจเพราะกินสุรา)

*สัปตศก คือปีจุลศักราชที่ลงท้ายด้วยเลข 7 ในบันทึกนี้หมายถึง ปีวัว จ.ศ. 1227

My Review

Review Form...

Reviews

Loading Reviews...