Civil War (2024) วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด หนังสงครามกลางเมืองที่น่าดูอีกหัวข้อผลงานปัจจุบันของผู้กำกับ อเล็กซ์ การ์แลนด์ (Alex Garland) ที่เคยฝากผลงานเอาไว้ในหนังไซไฟสุดล้ำอย่าง Ex Machina (2014) รวมทั้ง Annihilation (2018) เป็นการกลับมาร่วมงานกับค่ายหนังอิสระที่สมัยอย่าง A24 เพียงแค่ชื่อนักดูหนังก็เพียงพอจะทายใจได้ว่ารายละเอียดจะต้องไม่ธรรมดา โดยหนังเกิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เมื่อสงครามกลางเมืองสหรัฐอเมริกา ที่แต่ละเมืองแบ่งพวกมารบกันเอง ทำให้ประเทศถึงจุดแตกหัก
Civil Warเป็น ภาพยนตร์ ดิสโทเปีย ปี 2024 ที่เขียนบทและก็ดูแลโดยอเล็กซ์ การ์แลนด์ มีเรื่องมีราวราวเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้เกิดเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มผู้สื่อข่าวที่เดินทางผ่านอเมริกาในตอนสงครามกลางเมืองที่กลืนรับประทานประเทศ กลุ่มดาราหนังมีเคิร์สเตน ดันสต์ ,วากเนอร์ มูรา ,เคลลี่ สปานี ,สตีเฟน แม็คคินลีย์ เฮนเดอร์สัน ,โซโนยา ไม่ซูโน ,นิค ออฟเฟอร์แมนรวมทั้งเจสซี เพลมอนส์
Civil Warฉายรอบรอบปฐมฤกษ์ที่South by Southwestตอนวันที่ 14 มี.ค. พุทธศักราช 2567 รวมทั้งเข้าฉายในสหรัฐฯโดยA24รวมทั้งในสหราชอาณาจักรโดยผู้แทนจำหน่ายภาพยนตร์เพื่อความเพลิดเพลินช่วงวันที่ 12 ม.ย. พุทธศักราช 2567 ได้รับการติชมเชิงบวกจากนักวิพากษ์วิจารณ์แล้วก็ทำรายได้ 34 ล้านเหรียญทั้งโลก .
เรื่องย่อ Civil War เรื่องราวเล่าถึงอเมริกาในสมัยที่ คนผิดใจกัน ขัดแย้ง
จนกระทั่งเกิดเป็นสงครามกลางเมือง ซึ่งฝั่งหนึ่งเป็นกองกำลังตะวันตก นำโดยเมืองแคลิฟอร์เนีย แล้วก็เมืองเท็กซัส ที่ต่อสู้กับฝั่งรัฐบาล ซึ่งมีผู้นำประพฤติตนเป็นเผด็จการ แล้วก็ครอบครองตำแหน่งยาวสม่ำเสมอ 3 ยุค โน่นก็เลยทำให้กองกำลังตะวันตก จำต้องบุกในกรุง วอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อฆ่าเขาในทำเนียบขาวให้ได้
แม้กระนั้นมิได้มีเพียงแค่กองกลังทหารแค่นั้น ที่ต้องการบุกเข้าเมืองหลวง เพราะเหตุว่าเป็นหน้าที่ของผู้รายงานข่าวการรบด้วยเหมือนกัน ที่จะต้องรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ซึ่ง “ลี” (เล่นบทโดย เคิร์สเตน ดันสต์) ตากล้องการศึกมือโปร กับ เพื่อนพ้องผู้สื่อข่าวของคุณ “โจ” (สวมบทบาทโดย วากเนอร์ มูร่า) จะเดินทางไปยัง กรุง วอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อสัมภาษณ์ผู้นำให้ทันก่อนกรุ๊ปกบฏจะได้รับชัย แม้กระนั้นพวกเขา จะต้องพาเพื่อนร่วมทางไปอีก 2 คน โน่นเป็น สหายผู้สื่อข่าวอาวุโส “แซมมี่” (สวมบทบาทโดย สตีเฟนแม็คคินลีย์ เฮนเดอร์สัน) รวมทั้งผู้สื่อข่าวสาวไฟแรงที่ปรารถนาหาประสบการณ์ “เจสซี่” (เล่นบทโดย เคลลี่ สปานี) งานนี้ก็เลยแปลงเป็นการเดินทาง ของผู้สื่อข่าว 4 คน ท่ามกลางตอนที่คนชาติเดียวกันหันมาฆ่าคุ้นเคย
น่าจะจำต้องบอกคุณคนอ่านก่อนว่า หากคุณมุ่งหวังที่จะไปดู หัวข้อนี้ เพื่อสัมผัสกับเนื้อหนังการศึกมันๆยิงกันระห่ำ เต็มไปด้วยกลเม็ดเด็ดพรายงัดข้อหัวข้อการเมืองการปกครอง ประเด็นนี้บางครั้งก็อาจจะมิได้ตอบปัญหาด้านนี้ให้ได้ ด้วยเหตุว่าเปลี่ยนเป็นว่าหนังใช้แนวทางเล่าด้วยท่าทางและก็สไตล์ที่เกือบจะใช้ฉากการศึกเอามาเป็นเพียงแค่ตัวประกอบแค่นั้น แต่ว่ามันแปลงเป็นฉากเอ็กซ์ยี่ห้อที่เต็มไปด้วยกำลังที่ทรงอำนาจอย่างจัดจ้า
จำเป็นต้องไม่ลืมเลือนว่าหนังประเด็นนี้เป็นงานสร้างของบริษัทหนังเล็กๆอย่าง A24 ที่ชอบทำหนังเฉพาะกรุ๊ปออกมาเป็นหลักมากยิ่งกว่า ฉะนั้นคุณจำเป็นต้องลืมไปได้เลยว่า Civil War ไม่ใช่หนังบ็อกซ์บัสเตอร์แอคชันการรบอะไรทำนอง แม้กระนั้นเสนห์และก็เอกลักษณ์ของหนังค่ายนี้ก็คือกรรมวิธีเล่า ที่ได้เลือกพาผู้ชมไปสะกดรอยก้าวจากมุมมองของอาชีพผู้รายงานข่าวรวมทั้งตากล้องการศึกภาคสนาม ที่การอินไซด์คลุกวงในการรบที่ออกจะแปลกใหม่ไม่น้อย ทั้งยังเป็นการเชิดชูหนึ่งในวิชาชีพที่เสี่ยงตายสุดๆอีกอาชีพหนึ่งของโลก
สิ่งที่ถูกใจใน Civil War (2024) เป็นถึงแม้หนังจะเล่าราวสงครามกลางเมืองครั้งที่ 2 ในสหรัฐอเมริกา ที่ทำให้ประเทศชาติแปลงเป็นสนามรบระหว่างฝ่ายรัฐบาล กับกองกำลังจากเมืองอื่น แม้กระนั้นหัวใจหลักของหนังมิได้พาพวกเราไปมองเห็นมุมมองของแต่ละพวก แต่ว่าเป็นการเบาๆเดินทางเข้าไปสู่พื้นที่อันพร่าเลือนที่ยากจะแยกประเภทว่าคนใดกันเป็นคนไหนกันแน่ ไม่ทราบว่านี่เป็นฝั่งเมืองหรือกองกำลังตะวันตก ศัตรูหรือมิตร สามัญชนหรือทหาร คนบริสุทธิ์หรือคนร้าย ในหลายคราก็ไม่เคยทราบด้วยว่าพวกเรากำลังพบเจอกับผู้ใด พวกเราเพียงแค่จะต้องฆ่าก่อนจะถูกฆ่าตาย สมการมันก็มีอยู่เท่านั้น
ส่วนข้อด้อยหมายถึงบทที่ช้าในหลายๆตอน รวมทั้งแม้จะมีเหตุระทึกแทรกเข้ามาเวลาผ่านตามเมืองต่างๆอยู่บ้าง แต่ว่าหนังก็จะตัดสลับไปๆมาๆระหว่างความระทึก กับความนิ่ง กระทั่งอาจก่อให้ผู้ชมเบื่อ เพราะว่ามองแบบสนุกสนานแบบสม่ำเสมอได้ยากมากมาย ฉากสู้จำนวนมากพวกเราก็ไม่เห็นพ้องซ้ำว่ายิงกับผู้ใด มองเห็นแม้กระนั้นผู้แสดงหลักเดินตามข้างหลังทหารเฉยๆยังดีที่ช่วงสุดท้ายยังมีฉากรบใหญ่ให้มองแบบตลอดราวครึ่งชั่วโมง ซึ่งก็ได้อารมณ์ของสงครามกลางเมืองอยู่บ้าง แม้กระนั้นก็มิได้ตูมตามขนาด ที่จะทำให้คนชอบดูหนังแอคชั่นถูกใจได้
นอกเหนือจากนั้น หนังเกือบจะมิได้พูดว่าสู้กันเพราะเหตุใดแบบเด่นชัด แต่ละกองทัพมีกำลังเท่าใด หรือหัวหน้าแต่ละข้างมีผู้ใดกันแน่บ้าง ซึ่งบางทีอาจเพราะเหตุว่าเรื่องพวกนี้เป็นข้อความสำคัญที่ประณีตมากมายในสหรัฐอเมริกา
สรุปแล้ว ‘Civil War’ นับว่าเป็นหนังสงครามที่ถ่ายทอดเรื่องราวของผู้สื่อข่าวภาคสนามการสู้รบได้อย่างถ่องแท้ โดยการเล่าเรื่องแล้วหนังให้ผู้ชมรับทราบผ่านมุมมองของนักแสดงและก็เสนอคำถามกับสงครามกลางเมืองที่แบ่งประเทศด้วยความเกลียดจนกระทั่งพวกเราอดเปรียบเทียบกับโลกความเป็นจริงที่กำลังถูกกัดเซาะด้วยการแบ่งแยกทางเชื้อชาติ ศาสนารวมทั้งภาษา จนกระทั่งกำเนิดการทำศึกตามพื้นที่ต่างๆมิได้
ภาพยนตร์แนวโรดทริปที่บรรยายรอยแผลและก็การสิ้นไปของการศึก
Alex Garland เริ่มเขียนบทภาพยนตร์ประเด็นนี้ในตอนปี 2020 ที่เหตุการณ์แพร่ระบาดของวัววิดยังคงร้ายแรง ซึ่งการจำต้องกักบริเวณอยู่ในบ้านพักแล้วก็การหยุดชะงักของโลกข้างนอก บวกกับความไม่ลงรอยกันที่เกิดขึ้นในเวลานั้น ทำให้เขารู้สึกกลัวแล้วก็ไม่สบายใจต่ออนาคตที่ไม่แน่ไม่นอน เขาก็เลยเริ่มจินตนาการถึงอนาคตอันใกล้ที่สังคมแตกกันออกเป็นหลายข้างและก็เต็มไปด้วยการขัดกัน ซึ่งส่งผลเสียต่อผู้คนปกติมากไม่น้อยเลยทีเดียว
จนกระทั่งกำเนิดเกิดเรื่องราวของสงครามกลางเมืองที่มีมหาอำนาจอย่างอเมริกาเป็นเบื้องหลัง กับเลือกที่จะไม่เจาะจงระยะเวลารวมทั้งชี้แจงถึงภูมิหลังของเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้ชมได้ปะติดปะต่อเรื่องราวด้วยตัวเอง
การพัฒนาและก็การเลือกเฟ้นผู้แสดง ในม.ค. ปี 2022 มีกล่าวว่าAlex Garlandได้เซ็นสัญญาเขียนบทและก็ดูแลภาพยนตร์หัวข้อนี้ให้กับA24โดยมีKirsten Dunst , Wagner Moura , Stephen McKinley Hendersonแล้วก็Cailee Spaenyมาเป็นดาราในม.ย.Karl Glusman ได้รับการประกาศ ให้เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของดาราสำหรับเพื่อการให้สัมภาษณ์กับThe Daily Telegraph
เมื่อ พฤษภาคม การ์แลนด์ชี้แจงว่าภาพยนตร์ประเด็นนี้สำเร็จงานร่วมของภาพยนตร์เรื่องMen ในปี 2022 ของเขา รวมทั้งบอกว่า “มีฉากที่จุดที่ไม่แน่นอนในอนาคต – ไกลพอเพียงสำหรับฉันที่จะเพิ่มความนึกคิด —แล้วก็ปฏิบัติภารกิจเป็น เครื่องหมาย เปรียบแนวไซไฟสำหรับเหตุการณ์ที่แตกขั้วของพวกเราในขณะนี้” สำหรับเพื่อการสัมภาษณ์เดียวกันSonoya Mizunoได้รับการเปิดเผยว่าเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของดาราหนัง โดยเคยแสดงตัวในรูปภาพยนตร์เรื่องก่อนๆของ Garland ทั้งผองทำให้จุดเด่นของเรื่องเป็นความสมจริงสมจัง ทรงประสิทธิภาพ ในมุมของการนำเสนอความโหดเหี้ยมของการสู้รบ ด้วยเหตุว่าพวกเราลุ้นว่า ระหว่างที่ผู้รายงานข่าวอีกทั้ง 4 คนเดินทางบนถนนหนทาง รวมทั้งจะต้องแวะพักตามเมืองต่างๆจำเป็นจะต้องพบกับเรื่องราวอะไรบ้าง
โน่นก็เลยทำให้หนังหัวข้อนี้ เป็นหนังผู้สื่อข่าว มากยิ่งกว่าหนังสงคราม ด้วยเหตุว่าผู้แสดงหลัก ทั้งยัง 4 คนทำเป็นเพียงแค่เก็บภาพเรื่องโศกเศร้าที่เกิดขึ้นเอาไว้ เพื่อเอาไปบรรยายถัดไปแค่นั้น พวกเขามิได้เข้าไปช่วยฝั่งไหนสู้เป็นพิเศษ หรือทำให้คนใดกันมองเป็นโจรเยอะเกินไป ตรงข้าม บางฉากยังมีผลให้พวกเรามองเห็นความเป็นผู้รายงานข่าวการรบมือโปรด้วย ดังเช่น มองเห็นคนถูกฝึกซ้อมทรมาทรกรรม ทั้งที่ไม่เคยทราบว่ามีความผิดใช่หรือไม่ คนธรรมดาทั่วไปอาจจะเข้าไปช่วยแล้ว แต่ว่าผู้แสดงหลักในประเด็นนี้ กับล้วงกล้องถ่ายภาพขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้เฉยๆรวมทั้งไปที่อื่นๆต่อ
ฟังดูราวกับว่าผู้รายงานข่าวเป็นคนเย็นชา มองไม่เห็นจุดสำคัญของชีวิตคนอื่นแม้กระนั้นข้อเท็จจริงเป็นหนังอยากได้พูดว่า นี่แหละเป็น “ผู้รายงานข่าว” เนื่องจากว่าถ้าเกิดทุกการทำศึกไม่มีคนพวกนี้ พวกเราก็จะไม่มีทางรู้เรื่องรู้ราวจริงที่เกิดขึ้นเลย
อีกหนึ่งจุดเด่นที่จะต้องบอกเป็น เสียงปืนในประเด็นนี้ ถูกดีไซน์มาให้ดังรวมทั้งมีน้ำหนักเป็นพิเศษ ทุกฉากยิงกันก็เลยมองสมจริงสมจัง เพื่อที่จะได้ให้พวกเรามีความรู้สึกเดียวกับผู้สื่อข่าวในการศึก การดูในโรงหนัง ก็เลยเป็นประสบการณ์ที่ควรที่จะเก็บเกี่ยวไว้เอาไว้อย่างมาก
แล้วก็อีกสิ่งที่ไม่กล่าวถึงอาจจะมิได้ก็คือเคล็ดลับงานเสียงในที่สะดุดตามาตั้งแต่วินาทีแรกของหนัง ยิ่งได้สัมผัสด้วยระบบเสียงหลากมิติในโรงภาพยนต์ไอแม็กซ์ด้วยแล้ว เสียงแปลงเป็นงานชั้นยอดเยี่ยมที่ช่วยมาเติมเต็มอรรถรสของผู้ชมได้อย่างเลิศหรู รวมทั้งประยุกต์ใช้กับพวกฉากการทำศึกได้อย่างก้องกังวานถึงขั้วอารมณ์หนัง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สะดุดตารวมทั้งต้องการยืนขึ้นตบมือให้กับมากมายๆ
นอกนั้น ก็ยังมีแนวทางงานสร้างอื่นๆที่น่าประทับใจ
อีกสิ่งก็คงเป็นงานรูปถ่ายรวมทั้งการตัดต่อ ที่ออกจะลื่นไหล แล้วก็ใช้การประสมประสานเล่าผ่านภาพเคลื่อนไหวกับภาพนิ่ง ที่เป็นการสะท้อนมุมมองผ่านภาพข่าวสารของคนถ่ายรูปการสู้รบที่บันทึกเอาไว้ได้อย่างเข้มข้น ถือว่าเป็นอีกส่วนประกอบที่ช่วยส่งเสริมความสมบูรณ์แบบให้กับหนังประเด็นนี้
ถึงหนังหัวข้อนี้บางทีก็อาจจะมิได้เด่นที่ผู้แสดงแล้วก็ดาราหนังมากแค่ไหนนัก แต่ว่าจะต้องเห็นด้วยว่านักแสดงทุกๆคนถ่ายทอดออกมาได้น่าประทับใจทั้งสิ้น “เคียสเตน ดันท์” กับหน้าที่ที่บางทีอาจจะมิได้เด่นที่สุดกว่าคนไหนกันแน่ แม้กระนั้นความเป็นมือโปรของคุณก็ช่วยประคับประคองหนังหัวข้อนี้เอาไว้ได้อยู่มือ เป็นการประสานกำลังกับ “วากเนอร์ มูรา” รวมทั้ง “สตีเฟน แม็คเคนลีย์ เฮนเดอร์สัน” คู่จิ้นวาย ออกมาเป็นกลุ่มแคสติ้งระดับน่าเชยชม
แล้วก็อีกผู้ที่ไม่ดูอาจจะมิได้ก็คือ “ค้างลี สแปนีย์” ศิลปินสาวดาวรุ่งที่พึ่งปังหมาดๆจากหนัง Priscilla เมื่อปีก่อน คราวนี้คุณก็มาเจิดแจ่มแจ้งอีกรอบในบทตากล้องข่าวสารภาคสนามมือใหม่ กับหน้าที่ที่มีลำดับการเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยในหนังอย่างชัดเจน แล้วก็คุณคนนี้ก็ถ่ายทอดออกมาได้แบบว่าเอาอยู่ แม้ว่าจะไม่ต้องมีไดอะล็อกมากไม่น้อยเลยทีเดียว ท่วงทีและก็การติดต่อสื่อสารของคุณนั้น ทำให้ออกได้น่าดูดูไม่น้อยด้วยเหมือนกัน
การโต้ตอบอย่างมีวิจารณญาณ Dunst ในงานเปิดตัวภาพยนตร์รอบรอบปฐมฤกษ์โลก การแสดงของคุณได้รับการชมเชยอย่างมากมาย รวมทั้งคนที่วิภาควิจารณ์ภาพยนตร์ประเด็นนี้ในด้านลบมากยิ่งกว่าด้วย
ภายหลังจากรอบรอบแรกของ SXSW ผู้เก็บรวบรวมคำวิพากษ์วิจารณ์Rotten Tomatoesตั้งข้อคิดเห็นว่านักวิภาควิจารณ์เรียกภาพยนตร์ประเด็นนี้ว่า นักวิพากษ์วิจารณ์ชมเชย “ความสวยสดงดงามแล้วก็ความเข้มข้นของละครดิสโทเปีย” ในตอนที่มองเห็น “ประสิทธิภาพสำหรับการแย้งแล้วก็ความหมดหวัง” เนื่องด้วยคุณภาพของใจความ บนเว็บ 82% ของคำวิพากษ์วิจารณ์ของนักวิพากษ์วิจารณ์ 295 คนเป็นแง่ดี โดยมีคะแนนเฉลี่ย 7.6/10
สรุปหน้าดูหรือไม่ ?เป็น “วินาศสนามรบเมืองเดือด” หรือ “Civil War” เป็นหนัง ฟอร์มยักษ์ ที่มิได้เหมาะสมกับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องการมาดูฉากยิงกันลั่นหน้าจอ แบบหนังสงคราม ด้วยเหตุว่า ขึ้นชื่อว่ามาจากค่าย A24 ย่อมมีความอินดี้ เน้นย้ำเฉพาะกรุ๊ป ไม่ใช่หนังเรื่องราวแนวตลาด
แม้กระนั้นถ้าเกิดเป็นคนถูกใจความเหมือนจริง ดราม่า โร้ดทริป หรือถูกใจมองการเสี่ยงตายในอาชีพผู้สื่อข่าว ประเด็นนี้ก็นับว่าเป็นความสนุกสนานร่าเริงชั้นเลิศ แล้วก็ควรจะไปดูที่โรงหนังเป็นอย่างมาก เนื่องจากถ้าหากตัดเรื่องความมุ่งมาดฉากแอคชั่นออกไป “Civil War” ก็นับว่าเป็นหนังที่มีนักแสดงดี ตั้งแต่ตัวหลักจนถึงตัวประกอบ ที่ช่วยให้เหตุที่พบมองสมจริงสมจังมากมาย แล้วก็เสียงปืนก็ดังกระทั่งนั่งไม่ติดเก้าอี้เมื่อได้ยิน ซึ่งอาจมีไม่กี่เรื่องที่ทำอะไรอย่างนี้
