มองโกล ตอน กำเนิดเจงกิสข่าน ภาพยนตร์ประเด็นนี้เกิดเรื่องราวมหากาพย์ของเจงกีสข่านในวัยเด็กและก็เรื่องราวต่างๆในชีวิตในวัยเด็กของเขาทำให้เขาเปลี่ยนเป็นผู้ชนะในตำนานได้ยังไง เตมูจินวัย 9 ขวบถูกบิดาของเขาพาท่องเที่ยวเพื่อเลือกสตรีคนหนึ่งเป็นเมียในอนาคตของเขา เขาได้เจอกับBörteซึ่งกล่าวว่าคุณอยากได้รับเลือกซึ่งเขาทำ เขาข้อตกลงว่าจะกลับมาภายหลังจากสมรสกับคุณห้าปี บิดาของTemüjinถูกวางยาสำหรับการเดินทางและก็เสียชีวิต
เมื่อเด็กผู้ชายเตมูจินจะต้องผ่านความยากจนความอับอายขายขี้หน้าแล้วก็ถึงแม้ว่าจะการเป็นข้ารับใช้ แต่ว่าถัดมาด้วยความให้การช่วยเหลือของBörte เขาเอาชนะความลำบากในวัยเด็กทั้งผองของเขาจนถึงแปลงเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งที่โลกเคยรู้จักในซีซันนี้โลกิจำเป็นต้องพบเจอกับอาการเวลาลื่นไถล (Time Slipping) ที่ทำให้เขาลื่นไถลเทียวไปเทียวมาในอดีตกาล มองโกล ตอน กำเนิดเจงกิสข่าน ตอนนี้ แล้วก็อนาคตแบบไม่สามารถที่จะสามารถควบคุมได้
พวกเราจะได้มองเห็นการไถลผ่านระยะเวลาของโลกิใน TVA ที่เคยเป็นหลักที่ควบคุมที่ยุคสมัยไม่เป็นผลอะไรก็ตามมอร์เบียสและก็โลกิเดินทางไปหา โอโรโบรอคอยส/โอบี (คีฮุยควน – Ke Huy Quan) ข้าราชการข้างปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมและก็ปรับปรุงของ TVA จนกระทั่งทำให้พวกเขาจำเป็นต้องค้นหาตัวการที่ดูเหมือนจะใหญ่มากยิ่งกว่าที่คิด นอกเหนือจากนั้น โลกิยังจำเป็นต้องออกตามหาสิลวี และก็จะต้องเดินทางไปเจอกับ วิกเตอร์ ไทม์ลี (โจนาธาน เมเจอร์ส – Jonathan Majors)
และก็ ตุลาการ ราวอนท้องนา เรนสเลเยอร์ (เราฉัน ถ่ายมบาทา-คอยว์ – Gugu Mbatha-Raw) ก่อนที่จะทุกๆเวลาจะแตกสลายไปนิรันดรเนื่องจากว่าตัวซีรีส์เองมีความเป็นเอกเทศ แล้วก็อิสระจากไตเติลอื่นๆของ MCU อยู่พอควร แล้วก็การที่เรื่องราวในซีซันนี้ จะเป็นเหตุที่เล่าตลอดจากซีซันแรกในทันที รวมทั้งที่สำคัญเป็น เป็นการเล่าที่เรียกว่าใฝ่สูงมากเพิ่มขึ้นจากภาคแรกในทุกด้านขอรับ ด้วยเหตุว่าปัญหามิได้มีเพียงแค่ Time Slipping ของโลกิเฉยๆ
Mongol The Rise of Genghis Khan (2007)
มองโกล ตอน กำเนิดเจงกิสข่าน
เรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของเจงกีสข่านในวัยเด็กและก็เรื่องราวในวัยเด็กที่ทำให้เขาแปลงเป็นผู้ชนะในตำนาน เตมูจินวัย 9 ขวบถูกบิดาพาท่องเที่ยวเพื่อเลือกหญิงสาวเป็นเมียในอนาคต เขาได้เจอกับBörteซึ่งพูดว่าคุณปรารถนาได้รับเลือกซึ่งเขาก็ทำ เขาข้อตกลงว่าจะกลับมาภายหลังห้าปีเพื่อสมรสกับคุณ บิดาของเตมูจินถูกวางยาระหว่างการเดินทางแล้วก็เสียชีวิต เมื่อเด็กผู้ชาย Temüjin ผ่านการงดเว้นต้องการ ความอัปยศอดสู แล้วก็แม้กระทั้งการเป็นข้าทาส
แต่ว่าถัดมาด้วยความให้การช่วยเหลือจาก Börte ทำให้เขาเอาชนะความเหนื่อยยากในวัยเด็กทั้งปวงเพื่อแปลงเป็นหนึ่งในผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยรู้จักฉันรู้สึกว่าส่วนที่ถูกใจที่สุดของภาพยนตร์หัวข้อนี้เป็นการถ่ายหนังที่สุดยอด ขอสรรเสริญ Roger Stoffers แล้วก็ Sergei Trofimov สำหรับงานที่สุดยอดสำหรับเพื่อการถ่ายรูปภาพยนตร์ประเด็นนี้ โดยการทำให้ทิวภาพที่ใจเย็นที่สุดมองงามบ่อยมาก แล้วก็เพิ่มภาพระยะใกล้ที่สุดยอดของวัตถุและก็บริเวณใบหน้า
แม้กระนั้นพวกเขาจะต้องจัดการกับ Nexus Event ที่รุนแรงมากเพิ่มขึ้นทุกครั้ง มองโกล ตอน กำเนิดเจงกิสข่าน พล็อตในซีซันนี้ก็เลยออกจะมีภารกิจที่ชัดแจ้งรวมทั้งไม่อ้อมค้อม มากยิ่งกว่าการเผชิญหน้ากับเรื่องนึกไม่ถึงราวกับในซีซันแรก ซึ่งเชื้อเชิญให้ระลึกถึงหนังดำเนินการกู้โลกได้อยู่เช่นเดียวกันนะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเช่นเดียวกัน แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้ท่านตรึงอยู่กับจอตลอดสองชั่วโมงเต็ม อย่างไรก็แล้วแต่ ฉันไม่เบื่อเลย หากว่าฉากแอคชั่นบางฉากจะมองซ้ำจากจำเจเกินความจำเป็นด้วยสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ที่มองขำขันมากมาย
เกี่ยวกับเลือดที่กระเด็นออกมาจากผู้คนในฉากต่อสู้ มันมองไม่เหมือนจริง แต่ว่าเหมือนว่ามันถูกวาดขึ้นมา เกิดเรื่องน่าชวนหัวที่ค่าการสร้างดูเหมือนจะสูงมากมายด้วยความพากเพียรสำหรับการถ่ายทำอย่างงดงาม แต่ว่าฉากแอ็คชั่นก็ถูกจัดฉากเสมือนภาพยนตร์ Bโดยสรุป นี่เป็นเรื่องราวของ “เจงกีสค้างห์น” มันก็คือ “เตมูดจิน” ตลอดทั้งเรื่อง ดำเนินชีวิตในวัยเด็กอย่างทุกข์ยากรวมทั้งแปลงเป็นนักสู้ที่เป็นที่รู้จักได้เช่นไร พวกเราเพิ่งจะมองเห็นความลำบากตรากตรำล้นหลามที่ชายผู้นี้จำต้องทรหดอดทน
เพื่อจะแปลงเป็นผู้ที่เขาเป็นในตอนหลัง เขาไม่เคยถูกเรียกว่าเจงกีสค้างห์น ซึ่งฉันได้ยินมาว่าเป็นชื่อที่มากกว่าชื่อ โน่นจำเป็นต้องเกิดขึ้นในคราวหลัง ภายหลังที่เขาควบคุมกองทัพมองโกลทั้งสิ้นได้ ซึ่งเป็นจุดที่ภาพยนตร์ประเด็นนี้จบลงหลายครา การดำรงชีวิตไม่น่าพึงพอใจสำหรับ “เตมูดจิน” ซึ่งถูกหมายหัวว่าเป็นเพศชายตั้งแต่อายุเก้าขวบ พวกเรามองเห็นเขาดำรงชีวิตสันโดษหลายชั่วโมงโดยถูกจำจองในที่ต่างๆรูปลักษณ์บนบริเวณใบหน้าของเขานั้นน่าจำ Odnyam Odsuren แสดงเป็น “Temudjin”
ตอนเด็กรวมทั้ง Tadanobu Asano รับบทบาทเป็น “Temudjin” ที่เป็นผู้ใหญ่ ทั้งสองมีบริเวณใบหน้าที่ถ่ายภาพได้ไม่ธรรมดาหนึ่งในปัญหานิดหน่อยที่ฉันมีกับภาพยนตร์เป็นการรู้เรื่อง “เรื่องราวที่เหลือ” เนื่องจากว่าบางฉากจบลงทันทีทันใดทำให้ฉัน (และก็ฉันมีความคิดว่าผู้ชมคนอื่น) สงสัยว่า “กำเนิดอะไรขึ้น” ถึงแม้เพื่อนพ้องๆของเขาจะมองบันเทิงใจและก็เจ้าสาวของเขาก็เป็นหญิงที่สวย ใจดี แล้วก็แข็งแกร่งเสมือนในรูปภาพยนต์ประเด็นนี้ ความจริง
ฉันพบว่าหัวข้อนี้เกิดเรื่องราวความรักไม่น้อยไปกว่ามหากาพย์การทำศึก รวมทั้งมุมโรแมนติกก็น่าทึ่งกว่ามากมาย ความทุ่มเทที่ดารานำชายรวมทั้งหญิงมีให้กัน ความสัตย์ซื่อและก็ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่สร้างแรงผลักดันขณะที่ซีซันนี้ก็ยังไม่ทิ้งภารกิจแนวเสี่ยงภัยที่มีบรรยากาศของหนังสืบสวน และก็หนังแนวตำรวจคนร้าย โดยยิ่งไปกว่านั้นการค้นหานักแสดงหลายๆตัวที่นำเอาประวัติศาสตร์จริงๆในสมัยก่อนมาแปลความหมายใหม่ลักษณะเดียวกันกับในซีซันแรก
แต่ว่าเล่นใหญ่มากยิ่งกว่านั้น ซึ่งหนึ่งในนักแสดงที่พวกเขาจำเป็นต้องค้นหาที่มาแล้วก็ความเกี่ยวเนื่องก็คือ วิกเตอร์ ไทม์ลี ที่ว่ากันว่าเป็น He Who Remains จากในศตวรรษที่ 18 (?) ตอนที่โลกิแล้วก็มอร์เบียส ก็ยังจำเป็นต้องค้นหาร่องรอยที่จะเฉลยคำตอบและก็เปิดเผยที่มา ย้อนหาแหล่งกำเนิดรวมทั้งการมีอยู่ของ TVA ไปด้วยในขณะเดียวกัน ซึ่งยังคงความเข้มข้น เต็มไปด้วยเหตุการณ์ สถานที่ ผู้แสดง ความประพฤติ อื่นๆอีกมากมาย ที่น่าเร้าใจรวมทั้งน่าดึงดูดอยากรู้ไม่แพ้ซีซันแรก
รีวิวหนัง “Cassandro ติดอยู่สซานโดร” แก่คุณ..นักสู้ที่งามเลิศที่สุดในพสุธา
รวมทั้งนี่เป็นตำนานของนักมวยปลุกปล้ำที่โลกได้ทำจารึกเอาไว้ กับการต่อสู้ที่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนมาด้วยน้ำตาแล้วก็เกียรติมากมายก่ายกอง เพื่อได้มาสู่การยินยอมรับโดยปกติ กับชีวิตของนักสู้ชาวรักร่วมเพศใน “Cassandro ติดอยู่สซานโดร” ที่เป็นการเผยแพร่เรื่องราวของเขาที่ถูกกล่าวขวัญต่อกันมากมายว่า 40 ปี จากทางจุดเริ่มแรกสู่การความชัยที่อยู่เหนือหัวหัวใจตนเอง ตัวหนังยังคงเอาไว้ด้วยบรรยากาศที่ครบรสอีกทั้งการเสี่ยงอันตราย แอ็กชัน คอมมีดี้ จะขาดก็ความโรแมนติก (ของโลกิ+สิลวี)
ที่บางครั้งอาจจะเหลือพื้นที่น้อยหน่อย เพราะว่าจะต้องให้น้ำหนักในเรื่องของ Conflict และก็ Pace ที่ซีเรียสร้ายแรงเพิ่มมากขึ้นกว่าซีซันแรก และความสลับซับซ้อนสำหรับการเล่าการข้ามเวลา มองโกล ตอน กำเนิดเจงกิสข่าน ที่แอบเป็นข้อคิดเห็นนิดๆหน่อยๆตรงที่บางครั้งอาจจะจำต้องใช้พลังสำหรับเพื่อการพิจารณาและก็ตั้งอกตั้งใจมอง หรือไม่ก็บางทีก็อาจจะจำต้องมองซ้ำ แม้กระนั้นอย่างไรก็แล้วแต่ ซึรีส์ประเด็นนี้ก็ยังเล่าคอนเซปต์เล่าจักรวาลคู่ขนาน และก็การข้ามเวลา แล้วก็การหมุนลูปของเวลา
ผ่านการตัดต่อแล้วก็มุมกล้องถ่ายรูปในแบบของตนเองได้ผิดตาแล้วก็มองง่ายสุดๆ ในสมัยที่การเล่าคอนเซ็ปต์แนวๆนี้ ในหนังหรือซีรีส์ไซไฟที่บางทีอาจจะมิได้มีเคล็ดลับที่แปลกใหม่แล้วในยุคนี้ซีซันนี้ก็ยังคงเสนอคำถามปรัชญาลึกๆกับสิ่งที่เรียกว่า ความมุ่งมั่นตั้งใจเสรี (Free Will) ว่าในความเป็นจริงแล้วการที่พวกเราทำ/ไม่ทำสิ่งใด เป็นสิ่งที่พวกเราเลือกเองหรือมี ‘พระผู้เป็นเจ้า’ แบ่งสรรให้กันแน่ รวมทั้งสิ่งที่นับว่าเป็นหลักสำคัญในซีซันนี้ก็คือ ความไม่ลงรอยกันระหว่างแนวความคิดของการปกป้อง TVA
และก็เส้นเวลาศักดิ์สิทธิ์เอาไว้เพื่อทุกๆชีวิตทั้งสิ้นได้มีชีวิตอยู่ถัดไป (แต่ว่าจะต้องถูก TVA ควบคุม คนไหนกันทำ Nexus โดนกองทัพ Minutemen ไล่กระซวก) กับการปลดปล่อยให้เส้นเวลาศักดิ์สิทธิ์ล่มสลาย TVA ถูกทำลาย กำเนิดเส้นเวลาแตกกิ่งก้านสาขามีอิสรภาพไม่มีการควบคุม ซึ่งก็บางทีอาจจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดการศึกระหว่างพหุจักรวาล (Multiversal War) จนกระทั่งเส้นเวลาทั้งสิ้นล่มสลาย ไม่ว่าจะเลือกเองด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเสรี
หรือมีคนใดกันแน่สั่งการ โลกิและก็ TVA ก็จำเป็นต้องเลือกโชคชะตาพวกนี้เองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เรื่องราวชีวิตของ ซาอุล อาร์เมนดาริซ นักสู้บนสังเวียนมวยปล้ำจากชายแดนอเมริกา-ประเทศเม็กซิโก ดูหนังออนไลน์ 4k ไม่กระตุก ที่มีสมญานามในแวดวงว่า ค้างสซานโดร ที่ตั้งชื่อตามจากนางเอกละครน้ำเน่า เปลี่ยนมาเป็นนักสู้สายเอ็กโซตำหนิโกชาวรักร่วมเพศที่บรรลุความสำเร็จแล้วก็มีชื่อระดับประเทศในตอนสมัยปี 1980s ท่ามกลางแสงสีและก็ความสับสนในห้วงสมัยที่เต็มไปด้วยบททดลอง
Cassandro เป็นหนังที่่ออกจะสร้างผลงานออกมาได้สะดุดตาจากเทศกาลหนังซันแดนซ์ เมื่อตอนต้นปีให้หลัง จากเสียงตอบรับของหนังที่ได้ออกมา นี่เป็นผลงานการควบคุมและก็ร่วมเขียนบทของ “โรเจอร์ รอคอยส วิลเลียมส์” นักสร้างภาพยนตร์ที่กำลังเป็นด้ามจับตามอง ภายหลังที่เคยแจ้งเกิดขึ้นมาจากหนังสารคดี Life, Animated เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้เอ๋ยถึงผู้แสดง แน่ๆว่า พี่ทอม ฮิดเดิลสตัน ก็ยังคงรับบทบาทเป็นโลกิได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีเสน่ห์ดึงดูดสายตาด้วยหน้าที่และก็การแสดงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
รีวิวซีรีส์ “The Continental” ไม่ลงลึกกับประวัติศาสตร์มือสังหาร แม้กระนั้นเดือดไม่แพ้ John Wick
จบการคอยสำหรับซีรีส์ ‘The Continental – From the World of John Wick’ ที่เลือกแพลตฟอร์ม Prime Video บอกกล่าวต้นเหตุของ วินสตัน นักแสดงของ เหม็นเบื่อ แม็กศาสนาเชน (Ian McShane) ก่อนที่จะมาเป็นผู้จัดการบังกะโลมือสังหารอย่างเดอะ คอนว่ากล่าวเนนตัล ตามชื่อซีรีส์ วินสตัน สก็อต (วัวลิน วูเดลล์ – Colin Woodell) ฝืนใจกลับไปตามหาตัว แฟรงค์กี้ (เบน ร็อบสัน – Ben Robson) ที่ดันไปลักขโมยของชิ้นสำคัญจาก คอร์แม็ก (เมบ กิ๊บสัน – Mel Gibson)
บิดาจอมบ้าอำนาจของทั้งสองแม้กระนั้นยิ่งวินสตันตามสืบเรื่องของแฟรงค์กี้เยอะแค่ไหน มองโกล ตอน กำเนิดเจงกิสข่าน เขายิ่งศึกษาและทำการค้นพบว่าในโลกของมือสังหารซึมลึกไปสู่หลายกรุ๊ปอำนาจอีกทั้งกลุ่มของผู้คนฝรั่ง ตำรวจที่ไม่ได้แต่งกายภานในเครื่องแบบราชการ ครอบครัวคนดำผู้ครอบครองโดโจคาราเต้จนถึงผู้หลบภัยชาวเวียตนาม แล้วก็ทางเดียวที่จะคืนความสงบสุขให้พวกเขาได้อาจมีเพียงแต่การล้มคอร์แม็กลงให้ต้องได้ยังคงเป็นโลกิในแบบที่หลายท่านรักได้เลิศเลอ
เป็นแอนตี้ฮีโรที่มีความเจริญที่เข้มข้นและก็ขมักเขม้นขึ้นในอีกระดับ โซเฟีย ดิ มาร์ว่ากล่าวโน ก็ยังสวมบทเป็นสิลวี ตัวแปรจอมผู้ทรยศของโลกิได้มีเสน่ห์ แล้วก็มีมิติที่น่าดึงดูดไม่แพ้กันส่วน โอเวน วิลสัน ก็ยังเล่นบทมอร์เบียสได้อย่างน่าดึงดูด ใน 4 ทีแรกๆเรื่องราวบางทีอาจจะมิได้จุดโฟกัสที่ตัวเขามากเท่าไรนัก จำเป็นต้องทดลองดูว่า เรื่องราวที่เหลืออีก 2 Ep. จะมีเรื่องมีราวราวของเขาบ้างหรือไม่ อีกผู้ที่ไม่ไม่สามารถพูดได้ก็คือ โอโรโบคอยส ที่สวมบทโดย คีฮุยควน ผู้ครอบครองรางวัลออสการ์ดาราสมทบชายดีเลิศ
ที่ลีลาท่าทางและก็เสน่ห์ของเขาอาจจะไม่ต้องบอกให้มากเรื่อง ยิ่งไปกว่านี้พวกเราจะได้มองเห็น Miss Minutes มีหน้าที่เพิ่มมากขึ้นด้วยขอรับ ถ้าเกิดยัยนาฬิกานี่จะโดนผู้ชมหมั่นไส้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในด้านงานควบคุมนับว่าเขาทำออกมาก้าวหน้าไม่น้อย ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ออกมาได้อย่างเรียบง่ายแม้กระนั้นเต็มไปด้วยเนื้อความที่ทรงอำนาจ ผ่านการร้อยเรียงของภาพรวมทั้งงานศิลปต่างๆที่ทำให้หนังประวัติบุคคลหัวข้อนี้เต็มไปด้วยอรรถรสความรื่นเริงใจ
ที่ผสมไปกับฉากชีวิตของคนคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยรสจำนวนมากที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาได้ร่วมเขียนบทกับ “เดวิด หนค” ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วบ่อยมาก โดยพวกเขาทั้งสองใช้เวลาปลุกปั้นเขียนบทหนังประเด็นนี้นานร่วมปี โดยได้แรงผลักดันมาจากหนังสารคดีเรื่องสั้น The Man Without a Mask ที่พวกเขาเคยสร้างไว้ในปี 2016 รวมทั้งเอามาขยายเปิดเผยเรื่องเล่าให้ยาวยิ่งขึ้น ผ่านมุมมองชีวิตของ ติดอยู่สซานโดร ตัวจริง ที่ปฏิบัติภารกิจเป็นที่ปรึกษาด้วย