นักสุขภาพจิต จิตแพทย์บางทีอาจเป็นศัพท์ที่พวกเราเคยชินเวลารำลึกถึงหมอเฉพาะที่ให้คำปรึกษาที่พวกเราสามารถขอความเห็นแล้วก็แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความนึกคิดแล้วก็จิตใจ แต่ว่าจริงๆแล้วผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้มีหลายลักษณะโดยมีชื่อเรียกนานับประการ
Contents
ด้วยเหตุการณ์ปัจจุบันนี้ที่สภาพแวดล้อมรอบข้างทำให้พวกเรามีโอกาสเสี่ยงต่อความป่วยทางจิตใจเวชล้นหลาม
คู่จิ้นวาย โดยที่พวกเราไม่รู้ตัว อย่างเช่น โรคเครียด, นอนไม่หลับ หรือแม้กระทั้งโรคเซื่องซึม ก็ดูเหมือนใกล้ตัวมากยิ่งกว่าที่พวกเราคิด ปัจจุบันนี้พวกเรามีผู้ชำนาญซึ่งสามารถให้คำแนะนำทางจิตเวชมาก อีกทั้งนักจิตวิทยา กับ จิตแพทย์ ปริศนาหมายถึงเมื่อพวกเรามีปัญหาสุขภาพจิตใจพวกเราควรจะเลือกคุยกับนักจิตวิทยา หรือจิตแพทย์ดี อีกทั้ง 2 วิชาชีพนี้ไม่เหมือนกันยังไง
เมื่อมีเรื่องมีราวให้เครียดหรือไม่สบายใจ ไม่ว่าจะคือปัญหาในครอบครัว ความเคร่งเครียดจากการทำงาน หรือความเกี่ยวข้องกับเพื่อนผู้ร่วมการทำงานและก็คนที่อยู่รอบข้าง พวกเรามักมองหาคนใกล้ตัวที่จะรอฟังเพื่อแบ่งเบาภาระความทุกข์ทรมานลงไปบ้าง แม้กระนั้นบางโอกาสความรู้สึกที่เกิดขึ้นก็มากมายเกินกว่าจะจัดแจงด้วยตัวเองได้ หรือมีเหตุมีผลบางสิ่งที่ทำให้เจ็บป่วยหัวใจที่จะระบายกับคนใกล้ตัว นักสุขภาพจิต การคุยกับผู้ชำนาญอย่างจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาก็เลยดูเหมือนจะเป็นช่องทางที่ยอดเยี่ย ผู้ชำนาญทางด้านที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตนั้นมีมากมายสาขาและก็มีชื่อเรียกที่คล้ายคลึงกันกระทั่งทำให้สับสนได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นจิตแพทย์ นักจิตวิทยา นักจิตวิทยาบรรเทา หรือนักจิตวิทยาการปรึกษาหารือและขอคำแนะนำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีความชำนาญสาขาหลักอย่างจิตแพทย์แล้วก็นักจิตวิทยาที่ในความรู้ความเข้าใจของคนสามัญนั้นดูเหมือนเกิดเรื่องที่มีความไม่ชัดแจ้งอยู่มากมาย วันนี้ พรีโมสนใจ เมดิคอล สถานพยาบาล เลยจะพาไปรู้จักกับทั้งคู่วิชาชีพนี้ให้ชัดขึ้น ว่าปฏิบัติงานราวกับหรือไม่เหมือนกันยังไง และข้อแนะนำพื้นฐานในกรรมวิธีการเริ่มขอความเห็น
จิตแพทย์ รวมทั้ง นักจิตวิทยา ปฏิบัติงานไม่เหมือนกันเช่นไร?
จิตแพทย์ (psychiatrist)เป็นหมอคนที่จบทางการแพทย์แล้วต่อหมอเฉพาะทางทางจิตเวชศาสตร์ซึ่งหมอด้านนี้สนใจเรื่องของความธรรมดา เรื่องโรค รวมทั้งการดูแลและรักษาขึ้นกับดุลยพินิจไม่ว่าจะการใช้ยาหรือการให้คำปรึกษาสำหรับเพื่อการขอคำแนะนำสนทนากับนักบำบัดรักษาหรือเรียกว่านักจิตวิทยา
จิตแพทย์ กับ นักจิตวิทยา แตกต่างกันเช่นไรเป็นปัญหายอดนิยมของหลายท่าน เพราะว่าทั้งยัง 2 อาชีพนี้มีความใกล้เคียงกันมากมาย
นักจิตวิทยา (Psychologist)หมายถึงคนที่เรียนจบในหลักสูตรทางด้านจิตวิทยา ซึ่งเป็นการศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับความประพฤติปฏิบัติ จิตใจ ความนึกคิด ระบบความนึกคิด และก็สภาพของสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นทางด้านที่เกี่ยวข้องกับสังคมของผู้คน ซึ่งภายหลังจากคนที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้วจะ
ต้องเข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มเติมอีกในหลักสูตรการฝึกฝนปฏิบัติการทางด้านจิตวิทยาสถานพยาบาล
ในเรื่องที่ต้องการที่จะให้คำชี้แนะผู้ป่วยในฐานะนักจิตวิทยาสถานพยาบาล (Clinical Psychologist) แล้วจำต้องผ่านการสอบเพื่อจดทะเบียนเป็นผู้ได้รับเอกสารสิทธิ์ประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยาสถานพยาบาล ก็เลยจะสามารถดูแล ให้คำแนะนำกับคนไข้จิตเวชศาสตร์ หรือคนที่มีปัญหาด้านที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตได้ตามมาตรฐานวิชาชีพอย่างเหมาะควร รวมทั้งสามารถกระทำทดลองรวมทั้งประเมินทางด้านจิตวิทยาสถานพยาบาลได้
จิตแพทย์ (Psychiatrist)หมายถึงหมอเฉพาะทางที่เป็นพยาบาลบุคคลที่มีอาการป่วยด้วยโรคทางจิตเวช อาชีพจิตแพทย์มีจุดที่ต่างจากนักจิตวิทยาสถานพยาบาลหมายถึงจิตแพทย์สามารถวินิจฉัยโรคในกรุ๊ปจิตเวชศาสตร์แล้วก็โรคอื่นๆได้ มีความรู้และมีความเข้าใจสำหรับในการวิเคราะห์และก็แบ่งกรุ๊ปโรคทางจิตเวชและก็โรคในกรุ๊ปอื่นๆออกมาจากกันเพื่อกระทำการรักษา หรือส่งต่อคนเจ็บที่ไม่เจอความเปลี่ยนไปจากปกติทางจิตเวชไปยังแผนกอื่นๆเพื่อรับการดูแลและรักษาให้ตรงกับโรคถัดไป
จิตแพทย์ เป็นหมอเฉพาะทางกิ่งก้านสาขาหนึ่ง ทางการเป็นจิตแพทย์ก็เลยจำเป็นต้องเริ่มที่เกิดจากการเรียนหมอทั่วๆไปในภาควิชาแพทยศาสตร์ 6 ปี แล้วก็ต่อหมอเฉพาะทางในสาขาวิชาจิตเวชอีก 3 ปี ใช้เวลาทั้งสิ้นขั้นต่ำ 9 ปี มีความชำนาญสำหรับในการรักษาโรคทางจิตใจ รวมทั้งความไม่ปกติทางอารมณ์แล้วก็ความประพฤติ โดยสำหรับในการวิเคราะห์แล้วก็รักษาโรคทางใจจะไตร่ตรองความผิดแปลกจากสาเหตุทางด้านประสาทแล้วก็สมอง กรรมพันธุ์ รวมทั้งโรคอื่นๆร่วมด้วย
นักจิตวิทยา (psychologist)เป็นคนที่ศึกษาเล่าเรียนระดับปริญญาตรี -โท -เอก ทางจิตวิทยา จำนวนมากจะพึงพอใจเรื่องจิตใจในลักษณะทั่วไป การพัฒนาความสามารถในกรณีของจิตวิทยาเฉพาะทาง ยกตัวอย่างเช่น จิตวิทยาสถานพยาบาล (clinical psychology) จะย้ำด้านความแตกต่างจากปกติทางจิตใจมากยิ่งกว่ากิ้งก้านอื่น โดยลักษณะการให้การรักษาเป็นการให้การหารือ คุย เปลี่ยนแปลงความประพฤติปฏิบัติหรือทัศนคติ
สำหรับจิตแพทย์นั้นเป็นคนที่เรียนในด้านแพทยศาสตร์ในชั้นปริญญาตรีเป็นระยะเวลา 6 ปี แล้วหลังจากนั้นก็เลยศึกษาต่อในด้านจิตเวชเป็นระยะเวลา 3 ปี ก็เลยจะสามารถเป็นจิตแพทย์ทั่วๆไปได้ ถ้าจิตแพทย์ท่านนั้นอยากศึกษาต่อเฉพาะทางทางจิตเวชอีกก็จะใช้ช่วงเวลาศึกษาต่ออีกราว 4 ปีก็เลยจะสามารถเป็นจิตแพทย์เฉพาะทาง ดังเช่นว่า จิตแพทย์เด็กและก็วัยรุ่น ฯลฯ
จิตแพทย์ สามารถตรวจวินิจฉัยโรคทางด้านจิตต่างๆและก็ให้การรักษาที่ครอบคลุมมากยิ่งกว่านักจิตวิทยา โดยจะย้ำรักษาโดยการใช้ยาและก็แนวทางการทำจิตบำบัด ซึ่งบางครั้งบางคราวในส่วนของกระบวนการทำจิตบำบัดจะส่งต่อไปให้นักจิตวิทยาเป็นผู้ดูแล นอกจากนั้นจิตแพทย์ยังบางทีอาจใช้การรักษาอื่นๆร่วมด้วย ดังเช่น การกระตุ้นสมองด้วยกระแสไฟฟ้า และก็มีบทบาทสำหรับการตรวจร่างกายกายรวมทั้งประเมิน
จิตบำบัด (Psychotherapy)เป็นผู้ให้บริการที่เหมาะสมกับปัญหา
เกี่ยวกับสุขภาพจิตที่บางทีอาจได้รับการวิเคราะห์จากจิตแพทย์หรือมีลักษณะอาการระบุตามเกณฑ์ เป็นต้นว่า เหงาหงอย (depression) ตื่นตกใจ (panic) PTSD (post-traumatic stress disorder) ไม่สบายใจ (anxiety) ใจร้อน (anger) มุ่งหวังสูง ขาดแรงกระตุ้น กลัวการอยู่ตามลำพังคนเดียว ระแวงคน ความนิสัยเสีย ฯลฯ พูดอีกนัยหนึ่งเป็นกรุ๊ปปัญหาด้านสุขภาพจิตที่อยากได้บรรเทา
นักจิตวิทยา ทําอะไรบ้าง สำหรับในการให้บริการของนักจิตวิทยาสถานพยาบาลนั้น โดยปกตินักจิตวิทยาสถานพยาบาลจะสามารถทำข้อสอบด้านจิตวิทยาสถานพยาบาลเพื่อได้รู้ถึงกลไกทางจิตของผู้รับบริการ และก็สามารถให้คำแนะนำด้านจิตใจ ความตึงเครียด ปัญหาความขับขุนข้องหมองใจทั่วๆไป รวมทั้งการบำบัดโดยไม่ให้ยารักษาโรค อาทิเช่น การบำบัด Supportive Psychotherapy, Cognitive Behavioral Therapy, Art Therapy, Music Therapy หรือ Drama Therapy ฯลฯ
โดยปกตินักจิตวิทยา กับ จิตแพทย์นั้นให้คำแนะนำในกรุ๊ป นักสุขภาพจิต โรคทางจิตเวชที่แบบเดียวกัน ได้แก่ โรคไม่มีชีวิตชีวา เซื่องซึมเรื้อรัง, โรคแพนิค, ไบโพลาร์, กังวลแล้วก็โรคทางจิตเวชอื่นๆโดยมีความต่างกันตรงที่นักจิตวิทยาสถานพยาบาลสามารถให้บริการให้ลักษณะของการให้คำปรึกษาและก็แนวทางการทำจิตบำบัดโดยไม่ใช้ยา ถ้าพบว่าคนป่วยจะต้องได้รับการดูแลรักษาโดยใช้ยาหรือมีลักษณะร้ายแรง ไม่สามารถที่จะสามารถควบคุมตัวเองได้ควรจะขอความเห็นจิตแพทย์
เมืองไทยพวกเราได้ไปสู่หน้าฝนอย่างเป็นทางการแล้วเจอมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ กรมควบคุมโรคได้มาออกประกาศเตือนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ ด้วยสภาพภูมิอากาศเปียกชื้นทำให้เชื้อไวรัสแพร่ไปได้ง่ายมากยิ่งขึ้น พวกเราจำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อมจัดการคุ้มครองป้องกันเพื่อสุขภาพของตัวเองรวมทั้งผู้ที่พวกเรารัก
จุดที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่างจิตแพทย์
กับ นักจิตวิทยารวมทั้งนักจิตวิทยาสถานพยาบาลในประเทศไทยหมายถึงจิตแพทย์เป็นคนที่สามารถจ่ายยารักษาอาการด้านจิตเวชได้แค่นั้น แต่ว่าในต่างชาตินักจิตวิทยาสถานพยาบาลสามารถจ่ายยาได้ด้วยเช่นเดียวกัน
นักจิตวิทยา ไม่สามารถที่จะวินิจฉัยโรคได้ แม้กระนั้นสามารถใช้ข้อสอบทางด้านจิตวิทยาเพื่อประกอบกิจการวางแผนบรรเทาทางจิตใจ การดูแลรักษาของนักจิตวิทยาจะย้ำกระบวนการบำบัดรักษาทางด้านจิต ความนึกคิด อารมณ์ แล้วก็ความประพฤติปฏิบัติโดยการพูดคุยกันเปลี่ยนเป็นหลัก เพื่อหาต้นตอที่ก่อให้เกิดปัญหาและก็ร่วมหากรรมวิธีการปรับแก้ รวมทั้งให้คำปรึกษาสำหรับในการเปลี่ยนแปลงความประพฤติหรือความนึกคิดเพื่อ
ตอนหน้าฝน ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เย็นแล้วก็เปียกชื้นเป็น นักสุขภาพจิต สิ่งแวดล้อมที่เชื้อไวรัสเจริญวัยได้ดิบได้ดี นอกจากนั้นผู้คนมักอยู่ในที่ร่มซึ่งทำให้มีการติดต่อสนิทสนมรวมทั้งการแพร่ระบาดมากขึ้น ตัวอย่างเช่นในสถานศึกษา สถานที่ทำงาน และก็การขนส่งสาธารณะ เป็นสถานที่ที่เชื้อไวรัสสามารถแพร่ขยายได้ง่าย
อาการทางสุขภาพทางจิตแบบใดที่ควรจะเจอผู้ชำนาญ
อาการพื้นฐานซึ่งสามารถขอความเห็นนักจิตวิทยา กับ จิตแพทย์ออนไลน์ได้ ยกตัวอย่างเช่น
รู้สึกเสียใจหรืองไม่เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน
ปราศจากความสุขหรือเปล่ารู้สึกพึงพอใจกิจกรรมหรืองานที่ชอบทำในเวลาว่างที่เคยพอใจในอดีตกาล
อารมณ์เสีย กระวนกระวาย กระวนกระวาย
รู้สึกท้อใจ ไม่มีค่า รู้สึกไม่ถูก
อ่อนล้า มีปัญหาสำหรับเพื่อการนอน ตัวอย่างเช่น นอนมากเหลือเกิน หรือนอนไม่หลับ
มีความประพฤติการทานอาหารแปรไป
ปวดหัว เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเรียกตัวโดยไม่เคยรู้มูลเหตุ
มีปัญหาเกี่ยวกับระบบที่ทำการย่อยอาหาร
มีปัญหาสำหรับเพื่อการใช้สมาธิจำเนื้อหา หรือการตัดสินใจ
คิด กล่าวช้าลง
คิดเรื่องความตายแล้วก็การฆ่าตัวตาย
ใช้ยาเสพติด
ไม่สบายใจ หรือสงสัยว่าบางทีอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรควิตก มีปัญหาสำหรับในการจัดแจงรวมทั้งต่อกรความรู้สึกกลุ้มอกกลุ้มใจ
มีปัญหาความด้านความเชื่อมโยง อาทิเช่น ความเกี่ยวเนื่องในครอบครัว คู่รัก เพื่อนฝูง คนภายในสถานที่ทำงาน
เครียด มีปัญหาการเล่าเรียน การทำงาน หรือชีวิตส่วนตัว
ไม่มีแนวทางจัดแจงความตึงเครียดอย่างเหมาะควร
จิตแพทย์ จะย้ำรักษาโรคที่จำต้องใช้หลายแนวทางรักษาด้วยกัน ทั้งยังการใช้ยา การบำบัดทางจิตใจ และก็การใช้จิตสังคมบำบัดรักษา โดยให้ความเอาใจใส่กับต้นสายปลายเหตุทางด้านจิตใจ อารมณ์ แล้วก็สังคมของผู้เจ็บป่วยอย่างครอบคลุม คนป่วยที่มีโรคที่ค่อนข้างจะสลับซับซ้อน ดังเช่นว่า โรคเศร้าใจหรือตื่นตระหนกจำพวกร้ายแรง โรคไบโพลาร์ นักสุขภาพจิต โรคจิตเภท สภาวะออทิสติก มักจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาจากจิตแพทย์ รวมถึงในกรณีที่มีความประพฤติรังแกตัวเองแล้วก็คนที่อยู่รอบข้าง
นักจิตวิทยา มักดูแลปัญหาที่เกิดจากทางสถานการณ์จิตใจซึ่งสามารถรักษาได้ด้วยกระบวนการทำจิตบำบัด ปัญหาทั่วๆไปที่คนจำนวนไม่น้อยเผชิญในชีวิตประจำวัน แม้กระนั้นไม่สามารถที่จะหาทางออกด้วยตัวเอง ไหมทราบจะไปขอความเห็นผู้ใด ล้วนแต่หารือนักจิตวิทยาได้ ดังเช่น ความเคร่งเครียดที่เกิดจากการเรียนรวมทั้งการทำงาน สภาวะหมดไฟ สำหรับการดำเนินงาน (Burnout) ความไม่ค่อยสบายใจต่อประเด็นต่างๆที่มีความรู้สึกว่ามีเยอะเกินไป แล้วก็ปัญหาเรื่องความเกี่ยวข้องกับคนที่อยู่รอบข้าง อีกทั้งครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคนภายในสถานที่ทำงาน รวมถึงภาวการณ์หม่นหมองรวมทั้งวิตกที่ยังไม่ร้ายแรง ปัญหาอื่นๆในด้านการกระทำ การศึกษา และก็การปรับตัวกับสังคม
การสังเกตลักษณะของไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดใหญ่หรือที่เรียกกันทั่วๆไปว่า
“หวัด” มีลักษณะที่นานัปการตั้งแต่ค่อยไปจนกระทั่งร้ายแรง อาการทั่วๆไป เป็นต้นว่า
จับไข้
ไอ
เจ็บคอ
น้ำมูกไหลหรือคัดจมูก
ปวดกล้ามหรือปวดตัว
ปวดหัว
เหน็ดเหนื่อย
บางเวลาอาจมีอาการอ้วกรวมทั้งท้องร่วง ซึ่งพบได้มากในเด็กมากยิ่งกว่าคนแก่
โดยปกติผู้เจ็บป่วยสามารถเลือกหารือนักจิตวิทยาหรือ นักสุขภาพจิต ขอความเห็นจิตแพทย์ก่อนก็ได้ ในเรื่องที่ผู้เจ็บป่วยเลือกหารือนักจิตวิทยาก่อนแล้วพบว่าผู้เจ็บป่วยจำต้องได้รับการวิเคราะห์หรือจะต้องได้รับการดูแลและรักษาเพิ่ม นักจิตวิทยาจะส่งต่อผู้เจ็บป่วยเพื่อรักษากับจิตแพทย์ถัดไป หรือในทางตรงกันข้ามถ้าหากผู้เจ็บป่วยรักษากับจิตแพทย์ก่อนแล้วจิตแพทย์ท่านนั้นลงความเห็นว่าผู้เจ็บป่วยควรจะเจอนักจิตวิทยาพร้อมกันไปด้วยคนเจ็บก็สามารถเจอกับนักจิตวิทยารวมทั้งจิตแพทย์ไปพร้อมเพียงกันได้
เริ่มเจอจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเช่นไรดี
การเลือกผู้ที่มีความชำนาญด้านของสุขภาพจิตรวมทั้งการดูแลและรักษาที่เหมาะสมกับสภาวะทางจิตใจที่กำลังพบเจอไม่ได้ต่างอะไรจากการหาแพทย์ให้ถูกโรค พื้นฐานชี้แนะให้โทรไต่ถามสถานพยาบาลแล้วก็บางทีอาจชี้แจงต้นเหตุที่ต้องการขอคำแนะนำเพื่อรับคำชี้แนะเสริมเติมว่าควรจะเจอจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา
สำหรับเพื่อการเจอกันหนแรก จิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาจะสนทนาถึงต้นสายปลายเหตุที่คุณมีความคิดว่าตัวเองปรารถนารับการบำบัด แล้วก็ซักถามว่ามีลักษณะเช่นไร รู้สึกเช่นไร เป็นมานานมากแค่ไหน ต่อไปจะเริ่มคุยในหัวข้อต่างๆเพื่อทำความเข้าใจผู้เจ็บป่วยให้เยอะขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น ครอบครัว การทำงาน งานว่าง หรือกิจกรรมที่มักจะทำ รวมทั้งอาจมีวิธีการทำแบบประเมินสุขภาพทางจิตร่วมด้วย เมื่อรู้จักกันเยอะขึ้นและจากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นการวางเป้าหมายการดูแลรักษารวมทั้งให้โอกาสให้ถามคำถามที่คุณยังสงสัยหรือเคืองใจเกี่ยวกับการดูแลรักษา
คุณอาจจะต้องใช้เวลายาวนานหลายสัปดาห์กว่าจะรู้จักดีกับการบำบัดจิตกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา ถ้าผ่านไป 2-3 อาทิตย์แล้วยังคิดว่าการดูแลและรักษามิได้ช่วยทำให้กระปรี้กระเปร่าขึ้น ควรจะบอกให้คนที่ให้การรักษารู้เพื่อปรับแนวทางการบรรเทาให้เหมาะสมกับตนเอง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อคุณภาพการดูแลรักษา ไม่สมควรฝ่าฝืนทำต่อไปโดยที่รู้สึกไม่ใช่ นักสุขภาพจิต เนื่องจากว่าโน่นพอๆกับไม่ถูกจุดประสงค์การดูแลและรักษาของจิตแพทย์และก็นักจิตวิทยา ที่อยากช่วยฟื้นฟูสุขภาพที่เกิดขึ้นกับจิตของคนไข้รวมทั้งเกื้อหนุนการมีคุณภาพชีวิตโดยรวมที่ดี
สุขภาพจิตใจมีความจำเป็นแล้วก็อยากการดูแลไม่ได้ต่างอะไรจากสุขภาพทางกาย หมั่นพินิจอารมณ์ ความนึกคิด แล้วก็ความรู้สึกของตน ถ้าเกิดไม่ไหวก็ไม่ต้องฝ่าฝืน ให้พรีโมห่วงใยช่วยฟังและก็หาทางจัดการปัญหา นัดพบขอคำแนะนำนักจิตวิทยาของพวกเราถึงที่เหมาะ LINE @primoCare หรือคลิกมองบริการเพิ่มตรงนี้