ก็อตซิลล่า 2
ก็อตซิลล่า 2 Godzilla: King of the Monsters เล่าราวครั้งใหม่นี้เอ่ยถึงความอุตสาหะของ โมนาร์ซ สถาบันวิจัยสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ที่ไม่สามารถที่จะกำหนดได้ เมื่อเหล่าสมาชิกในองค์กรจำเป็นต้องพบกับการต่อสู้กันระหว่างเหล่ามอนสเตอร์ยักษ์ ก็อดซิลล่า ปะทะกับ มอธร่า, โรแดน ก็อตซิลล่า2 และก็คู่แข่งขันตัวฉกาจอย่าง คิงกิโดร่า เหล่าสัตว์แปลกโบราณไม่เป็นเพียงแค่ตำนาน พวกมันฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเพื่อต่อสู้แย่งความเป็นเลิศในฐานะยอดราชาแห่งจักรวาล สะเทือนถึงการดำรงชีพของเชื้อสายมนุษย์ที่เหมือนห้อยอยู่บนเส้นด้ายเต็มทน
กำหนดฉาย: 30 พฤษภาคม 2019
แนว: แอ็คชั่น แฟนตาซี
นำแสดง: กางรดลีย์ วิทฟอร์ด, ไม่ลลี่ บ็อบบี้ บราวน์, เวรา ฟาร์มิกา, แซลลี่ ฮอว์รับประทานส์, ชาร์ลส แดนซ์, โธมัส มิดเดิลดิทช์, ไอชา ไฮด์ส, โอเชีย แจ็คสัน จูเนียร์, เดวิด สยี่ห้อเธรน,เคน วาตาทุ่งนาเบ้, จาง จื่อหยี
กำกับ: ไมเคิล โดเฮอร์ตี้
จากการบรรลุเป้าหมายทั่วทั้งโลกใน Godzilla ปี 2014 และก็ Kong: Skull Island ในปี 2017 สู่ภาคต่อของหนังในตำนานที่ มอนสเตอร์เวิร์ส (MosterVerse) ใน Godzilla 2: King of the Monsters หนังที่จะทำให้พวกเราได้เห็นก็อดสิลล่าปะทะกับเหล่าสัตว์ประหลาดที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์
รีวิว Godzilla: King of the Monsters ก็อตซิลล่า 2
กษัตริย์ที่มอนสเตอร์ที่เอาการนี้มารีวิวเพราะว่าส่วนตัวก็เป็นลูกค้าทรูอยู่แล้ว เพียงพอเลื่อนๆก็ไปพบหนังประเด็นนี้ครับผม ถ้าใครที่ลังเลอยู่ก็สามารถมาอ่านรีวิวของผู้เขียนในการประกอบสำหรับการตกลงใจก็ได้ขอรับ เรื่องราวที่ผู้เขียนสรุปมามีดังนี้ หน่วยงานโมนาร์ชที่กำลังเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตยุคก่อนที่จะปัจจุบันนี้เรียกว่าไคจู ซึ่งประกอบไปด้วยตัวหลักๆดังนี้ ก็อตสิลล่า กิโดร่า โรแดน มอธร่า ซึ่งมีอยู่มาวันหนึ่งมีฝูงคนที่คิดจะจัดสมดุลโลกอีกครั้งโดยใช้เหล่าไคจูที่หลับอยู่ เรื่องราวก็ราวนี้ครับผม ส่วนมากหนังเน้นไปที่การต่อสู้กันของไคจูมากยิ่งกว่าเรื่องราว ถ้าเกิดจะมองเอามันส์นี่คงเป็นหนังที่ตอบปัญหามากๆหากเอาเนื้อก็เปลี่ยนแปลงเรื่องได้เลย
หนังหัวข้อนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าใดแม้กระนั้นพอดูหนังในระยะแรกส่วนตัวผมก็มีความคิดว่าน่าระอาจนกระทั่งเผลอหลับไปบ้างก็มีนะครับ แต่เพียงพอเข้าไปช่วงกลางของหนังหลังจากปลุกเหล่าไคจูแล้ว หนังก็สนุกสนานขึ้นมากครับผม การเซ็ตฉากในหนังนี่ก็นับว่าทำได้ดีเยี่ยมๆเหมือนจริงสุดๆแม้กระนั้นบางฉากก็ทำผมน้ำตาคลอหน่วยได้เลยครับผม ส่วนนี้อยากให้คนอ่านไปดูในหนังเองมากกว่านะครับ ก็อตซิลล่า 2 สิ่งที่ประทับหัวใจสุดๆก็คงจะเป็นฉากการต่อสู้ของเหล่าไคจูนี่แหละที่เป็นตัวชูโรง โดยเฉพาะคู่ก็อตสิลล่ากับกิโดร่าที่สู้กันรุนแรงมากๆจนกระทั่งแทบจะลืมกระพริบตาสรุปสำหรับผู้ชมทั่วๆไปและแฟนก็อตซิลล่า
หนังเสิร์ฟความสนุกสนานแบบไม่บันยะบันยัง
ตั้งแต่ต้นกระทั่งถึงจบ แต่ว่าหนังมีข้อเสียคือพาร์ทนักแสดงมนุษย์ที่อ่อนแอ หากดูเน้นย้ำความเพลิดเพลินก็สามารถละเลยไปได้วนซีจีในหนังเรื่องนี้ไม่ต้องชี้แจงเลยนะครับ เนียนตามากๆยิ่งเหล่าไคจูนี่ไม่มีลอยเลยแม้กระทั้งนิด ฉากเมืองต่างๆก็เนียนตาเหมือน ถ้าหากเทียบกับหนัง last holiday มาเวลหัวข้อนี้ซีจีชนะขาด ยิ่งรายละเอียดบนตัวไคจูนี่ไม่ต้องบอกเลย เกล็ดเป็นเกล็ด ซีจีมันดีกระทั่งเหมือนเหล่าไคจูในหนังมันมีชีวิตจริงๆอย่างไรยังงั้นแหละขอรับส่วนดารา อันนี้พูดตรงไปตรงมาเลยจ๊าครับมีคนที่ทางคนเขียนรู้จักผู้เดียวก็น่าจะเป็นน้อง มิลล์ บ็อบบี บราวน์ ที่ฝากผลงานไปกับหนังเรื่อง สเตรนพบร์ ธิงส์ ไปแล้ว ซึ่งส่วนการแสดงของน้องเป็นดีมากครับผม ส่วนคนอื่นประเด็นการแสดงไม่เป็นสองรองผู้ใดกันแน่เช่นกันขอรับ ส่วนตัวมีความรู้สึกว่าทุนสร้างคงจะย้ำไปทางซีจีมากยิ่งกว่าการที่จะดึงคนที่ใครๆก็รู้จักๆมาแสดง
ในที่สุดก็เดินทางมาถึงภาพยนตร์ลำดับที่ 3 ของMonsterVerse
กันแล้วตัวหนังเล่าเรื่องตลอดโดยตรงจากหนังภาคแรก (ปี 2014) ของศึกใหญ่แกนกลางกรุงซานฟรานซิสโกระหว่างก็อตซิลล่าและก็มุโตะ ก่อความเสียหายรวมทั้งความสูญเสียอย่างมหาศาล แถมยังเป็นการเปิดตัวของตัวประหลาดยักษ์แก่สายตาชาวโลกว่าพวกมันมีอยู่จริง ก็อตซิลล่า 2 องค์กรโมนาร์คที่ทำหน้าที่ศึกษาค้นคว้าอสูรกายพวกนี้ ก็จำเป็นต้องออกมาสารภาพถึงเหตุผลที่พวกเขาปกปิดเรื่องสัตว์เหล่านี้ไว้เป็นความลับ รอการสอบปากคำจากวุฒิสมาชิกเกี่ยวกับเหล่าสัตว์ประหลาดที่มีชื่อเรียกสั้นๆว่า “ไททัน”
ตัวหนังเองก็เล่าเรื่องของครอบครัวสถานที่สำหรับทำงานให้กับองค์กรโมนาร์ค สืบไปจากเรื่องของศึกในหนังภาคแรก ทำให้ดร.มาร์กผู้เป็นพ่อจำเป็นต้องลาออกจากองค์กรรวมทั้งแยกทางกับเมีย ดร.เอ็มม่า ทิ้งให้เธออุปการะลูกสาว แมดิสัน อยู่เพียงลำพัง จนถึงวันหนึ่งเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดเกี่ยวกับงานวิจัยของดร.เอ็มม่าที่มีหน่วยงานก่อเหตุร้ายแรงที่มีความเกี่ยวโยงกับการปลดปล่อยเหล่าไททันที่จำศีลอยู่ทั่วโลก ซึ่งนำพาไปถึงการสูญพันธ์ของมนุษยชาติหนังเสิร์ฟความสนุกแบบไม่บันยะบันยังตั้งแต่ต้นกระทั่งถึงจบ
เป็นมาราธอนแอ็คชั่นอสูรกายที่ซัดกันแบบจัดเต็ม 2 ชั่วโมง ฉากสเปเชี่ยลเอฟเฟกต์ที่หรูและงดงาม เป็นการอัพเกรดตัวละครไททันจากอดีตของหนังก็อตซิลล่า ให้ผงาดอย่างยิ่งใหญ่สมกับงบต้นทุนที่สร้างโดยสตูดิโออเมริกัน กล่าวได้เต็มปากว่าความสนุกสนานที่เหมาะสมที่สุดของหนังหัวข้อนี้ เป็นฉากต่อสู้ของเหล่าบรรดาไททันทั้งหลายก็ไม่ผิด แม้หนังจะมีโทนที่จริงจังซีเรียสพอๆกับภาคแรก แม้กระนั้นก็ยังสามารถลงจังหวะหยอดมุขจากบทสนทนาของผู้แสดงในเรื่องมาเรียกเสียงหัวเราะให้ผู้ชมได้เรื่อยๆก่อนจะไปพบ จัสติซ ลีก กับผลสรุปของสงครามใหญ่บนผืนโลกของเรา
เกร็ดน่ารู้น่าสนใจกันก่อนดีมากยิ่งกว่า
1. ก็อดสิลล่า 2 พระราชาที่มอนสเตอร์ ได้โอกาสมผู้สร้างฯ ชำนาญจาก Life of Pi, Guardians of the Galaxy Vol. 2, Kong: Skull Island และ Star Wars: The Last Jedi
2. เคน วาตานาเบ้ แล้วก็แซลลี่ ฮอว์กินส์ กลับมาสวมบทบาทข้าราชการโมนาร์ค ร่วมกับผู้แสดงใหม่แสดงนำโดย เวรา ฟาร์มิกา, ไคลย์ แชนเลอร์ รวมทั้งมิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์
3. ผู้กำกับไมเคิล โดเฮอร์ตี้ ฝันอยากทำหนัง Godzilla มานาน เริ่มจากถ่ายคลิปเต่าของเขาอาละวาดในกล่องกระดาษ
4. ก็อดซิลล่า แสดงตัวบนหน้าจอยักษ์คราวแรกใน Godzilla (1954) สร้างโดย อิชิโร่ ฮอนดะ แล้วก็อิจิ สึบุระยะ จากโตโฮ สตูดิโอ
5. โมนาร์ค หน่วยงานรัฐบาลลับสำหรับศึกษาไททั่น มีชื่อเล่นว่าหน่วยหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกาของอสูรกาย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1946
เซอร์วิสให้เหล่าบรรดาแฟนคลับก็อตสิลล่าได้ยิ้มกัน
ไม่ว่าจะเป็นการหยอด Easter Egg ที่โยงไปถึงการคารวะหนังเวอร์ชั่นเก่ามากไม่น้อยเลยทีเดียว ผู้ใดกันที่เป็นแฟนของหนังก็อตซิลล่าอยู่แล้ว หากเก็ตสิ่งที่หนังตั้งอกตั้งใจ ก็อตซิลล่า 2 แอบใส่มาควรมีความสบายระหว่างรับชมแน่ๆ หรือดนตรีประกอบของเวอร์ชั่นเดิมที่นำมาประพันธ์ในรูปแบบใหม่ที่ทันสมัยเยอะขึ้น ซึ่งทำออกมาได้ยิ่งใหญ่จนกระทั่งน่าขนพองก็อตซิลล่า รวมทั้งเหล่าบรรดาไททันตัวอื่นเช่น มังกรทองสามหัว คิง กิโดร่า,ราชินีที่อสูรกาย มอธร่า และก็ ภูติผีปีศาจเพลิง โรแดน
ต่างก็ได้มีหน้าที่ที่เด่นนาๆประการของตน ซึ่งพวกมันก็แสดงพลังของแต่ละตัวออกมาได้อย่างสมศักดิ์ศรี ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวละครไคจูคลาสสิกจากญี่ปุ่นยอดนิยมเป็นอย่างมากจากแฟนคลับหนังก็อตซิลล่าทั่วทั้งโลก พลังความสามารถของแต่ละตัวได้ปลดปล่อยออกมาจัดเต็มในซีเควนส์แต่ละตอนของพวกมัน แต่ว่าที่กำลังจะได้มีบทเด่นที่สุดของหนังเป็นคนใดไม่ได้นอกเหนือจากเจ้าก็อตซิลล่าเอง และศัตรูศัตรูตลอดกาล คิง กิโดร่า ทั้งคู่เป็นดุจกางทแมนและก็โจ๊กเกอร์ที่อยู่คู่กันมาตลอดหากกล่าวถึงตัวละครสัตว์ประหลาดคู่ปรับของก็อตสิลล่าตั้งแต่สมัยก่อนมาจนถึงตอนนี้
Godzilla: King of the Monsters หนังสัตว์ประหลาดญี่ปุ่นตีกัน
ในโปรดักชั่นฮอลลีวู้ดอิริยาบถจะประตูบานใหญ่ที่ตั้งดวงใจเปิดออกสู่ “Monsterverse” ดูเหมือนจะมีวี่แววไม่ดีเสียแล้ว กับโปรเจกต์สำคัญของค่ายลีเจนดาปรี่ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ที่คาดหวังจะมีจักรวาลเป็นของตนเอง ด้วยการซื้อสัญญาร่วมกับโตโฮ บริษัทหนังใหญ่ของญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าของตัวประหลาดยักษ์เยอะมากในจักรวาลก็อดซิลล่าของเขา ที่มีประวัติช้านานมาตั้งแต่สมัย 60s
ภายหลังปูทางมาตั้งแต่ Godzilla (2014) ต่อเนื่องมาถึง Kong : Skull Island (2017) และก็ฉวยโอกาสเปิดตัวเต็มๆว่านี่คือการเปิดจักรวาลอสูรกายยักษ์ ด้วยการดึงเหล่าตัวประหลาดยักษ์ของโตโฮมาโชว์โฉมกันมากมายทั้งก็อดซิลล่า , คิงกิโดราห์ , ม็อธร่า และ โรดัน แถมยังมีอีกหลายตัวที่มาเดินโชว์โฉมแม้กระนั้นไม่ได้มีการแนะนำชื่อให้ได้ทราบจะหนังสานต่อเรื่องราวจาก Godzilla (2014) ตามช่วงจริง
หนังเว้นห่างกัน 5 ปี เรื่องราวในหนังก็ห่างกัน 5 ปี หลังจากการปรากฏตัวของ ก็อดซิลล่า วิทยาการของหน่วยงานโมนาร์ชก็ปรับปรุงขึ้น สามารถค้นพบยักษ์ยักษ์ที่หลบอยู่ตามมุมต่างๆของโลกได้ถึง 17 ตัว แล้วก็ภายในตอน 5 ปีนี่ ดร.เอ็มม่า ก็สามารถปรับปรุงเครื่องไม้เครื่องมือที่สามารถสร้างคลื่นความถี่ซึ่งสามารถติดต่อและทำการสื่อสารกับยักษ์ยักษ์ได้ เรียกวัสดุอุปกรณ์นี้ว่า “ออการ์” ในขณะที่ใช้ออการ์ติดต่อกับม็อธร่า โจนาห์ อลัน
หัวหน้ากลุ่มผู้ก่อเหตุร้ายก็มาชิงออการ์และก็จับตัว ดร.เอ็มมา กับเมดิสัน ลูกสาวไป รวมทั้งใช้ออการ์สำหรับในการปลุกยักษ์ยักษ์ทั่วทั้งโลก ทำให้ก็อดสิลล่าจะต้องลุกขึ้นยืนมาอีกที เพื่อกำราบเหล่ายักษ์ยักษ์ทั่วโลก และหนึ่งในนั้นคือ คิงกิโดร่า มังกร 3หัว คู่แข่งชั่วกัลปวสานของก็อดซิลล่า ที่รอบนี้เล่นเอาพี่ก็อดเกือบจะแย่อยู่หลายคราว