ดูหนัง Batman The Long Halloween Part Two (2021)
ดูหนัง Batman The Long Halloween Part Two (2021) เว็บไซต์หนังออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น เด็กหรือผู้ใหญ่ เพราะมีให้เลือกหลายเรื่อง สำหรับ หนังใหม่ ที่มีให้ได้เลือกชมหลายเรื่อง หลายคนอาจจะรู้สึกว่าเป็นหนังที่ไม่ค่อยน่าดูสักมากแค่ไหน หรือมีเรื่องมีราวเลือกน้อย ซึ่งอันที่จริงหนังออนไลน์มีให้เลือก หลากหลายประเภท แถมยังเป็นหนังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะว่ามีให้เลือกหลายเรื่อง หนังใหม่ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องออกใหม่ Batman The Long Halloween Part Two (2021) แม้กระนั้นขึ้นกับว่า ใหม่สำหรับคุณเพียงแค่นั้น ซึ่งคุณเองหรือใครๆทุกคนในครอบครัวก็สามารถมองได้ ด้วยเหตุว่ามีให้เลือกดูหลายแนว ไม่ว่าจะเป็น หนังแข่งรถ หนังแข่งขันกีฬา ชนิดต่างๆหนังรัก หนังดราม่า หนังแอ็คชั่น หรือจะเป็นการแข่งขันกีฬาเอ็กซ์ตรีมก็มีให้ได้เลือกชมกัน เรื่องย่อ : มือสังหารที่รู้จักกันในชื่อฮอลิเดย์ยังคงตระหนักถึงครอบครัว อาชญากรของ ฟอลค่อน ในเวลาที่ก่อคดีทาง อาญาใหม่ในเมือง Gotham กางทแมนสงสัยว่าอดีตผู้สนับสนุน อาจจะเป็นฆาตกรโรคจิต
รีวิว The Maid สาวลับใช้ – ผี ชนชั้น
รวมทั้งการก้าวข้ามแนวหนังที่คุ้นเคยตั้งแต่ Netflix เปิดตัวในไทยก็ทยอยอัดคอนเทนต์เด็ดๆมาเอาอกเอาใจผู้ชมชาวประเทศไทยอยู่เนืองๆรวมทั้งยิ่งหลังจากเริ่มซื้อพวกละครไทย และซีรีส์ไทย รวมถึงร่วมลงทุนในการผลิตคอนเทนต์โดยตลอดก็ย่อมกระจ่างแจ้งแล้วว่าคอนเทนต์ไทยบน Netflix ดูเหมือนเป็นไฮไลต์เด็ดสำหรับผู้ชมไทยไม่แพ้ซีรีส์เกาหลีที่ทยอยครอบครองความนิยมอย่างต่อเนื่อง และภายหลังผลิตซีรีส์ไทยแนวระทึกขวัญอย่าง
คว้างเคว้ง เปิดตัวไปปีกลาย ก็ถึงเวลาคอนเทนต์หนังยาวอย่าง The Maid ของผู้กำกับ ลี ทอง มาให้ผู้ชมพิสูจน์ความน่าสยดสยองแล้วก็ลุ้นระทึกด้วยรสชาติแปลกใหม่แต่ไม่ระคายลิ้นกันแล้วโดยเรื่องราวใน The Maid หรือ สาวลับใช้ ก็แน่ๆว่ามันบ่งบอกกระจ่างแจ้งว่านี่จะเป็นหนังที่เล่นกับการรับรู้หรือ Perceptionของผู้ชมต่อหนังผีที่มาในทรงเดียวกัน ตั้งแต่เปิดเรื่องที่มันฉายภาพหญิงรับใช้คนก่อนหน้ากับความหลอนที่ต้องเข้าไปดูแลหนูน้อยตัวน้อยที่มีปัญหาทางจิตพร้อมผีลิงสุดหลอนที่ทำให้เธอจำต้องขอลาออกจากงานแม่บ้านที่ทำอยู่ เป็นราวกับ Prologue หรือ บทนำตามทำเนียมหนังฮอลลีวูด
รีวิว The Maid สาวลับใช้แล้วสไตล์ภาพและการเล่าเรื่องก็มาในโหมดละครๆทันที
ทั้งยังรถโบราณที่ไปรับตัว จอย (พลอย ศรนรินทร์) สาวรับใช้คนใหม่ของบ้าน รวมทั้งเมื่อมาถึงเธอก็เริ่มพิจารณาได้ถึงความน่าสงสัยต่างๆทั้งลูกสาวที่ดูไม่ดีเหมือนปกติราวกับหลุดมาจากหนังเด็กเปรตของฮอลลีวูดที่ถูกใจมองเห็นผีๆสางๆหรือ คุณอุมา (สาวิกา ไชยเดชะ) คนแม่ที่แต่งตัวราวกับตนเองอยู่ไม่ลานแฟชันวีคตลอดเวลา และคุณผู้ชาย (ธีรภัทร์ สัจจกุล) ที่วันๆมือมิได้ห่างจากแก้วดื่มเหล้าเลยทีเดียวและตามสไตล์ว่าหลังจาก
หัวหน้าแม่บ้าน (ณัฐนี สิทธิสมาน) บอกว่าอย่าสอดรู้ สาวหน้าจอยก็เดินสำรวจบ้านแล้วก็ทำทุกสิ่งที่ศีรษะหน้าแม่บ้านนางบอกทันที และก็เจอดีตามฟอร์มกับผีสาวหญิงรับใช้สุดหลอน แล้วก็ความลับเบื้องหลังการมาดำเนินการที่บ้านข้างหลังนี้ของคุณก็เบาๆเฉลยออกมาในองก์สองและองก์สามของหนังตามลำดับจำต้องเห็นด้วยแหละว่าหากจะเอามาตรฐานการเล่าเรื่องหนังผีไทยระดับตำนานอย่าง เปนชู้กับผี ของ วิศิษย์
ศาสนเที่ยงตรง หรือ สุขสันต์วันกลับไปอยู่ที่บ้าน ของ ก้องเกียรติ โขมศิริ ที่นับว่าเป็นต้นฉบับสำคัญของหนังมาเป็นตัวชี้วัดความกลมกล่อมของบทภาพยนตร์แล้วก็การควบคุมที่ดูปราณีตกว่าก็คงจะมิได้ โดยเหตุนั้นงานชิ้นนี้ของ ลี ทองคำ เลยเป็นราวกับการทดลองราวกับที่เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์กับผมเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2563 ในการฉายรอบสื่อมวลชนที่ กันตนาฟิล์มสตูดิโอ เสียมากกว่า ด้วยเหตุดังกล่าวหากจะรีวิวรวมทั้งคิดตามพวกเราบางทีอาจต้องแยกมองตามการเล่าเรื่องในแต่ละองก์ของหนังดังต่อไปนี้ผี..วิญญาณ..
ที่ยังใกล้กับสถานที่เรียกกล้วยๆว่านี่คือภาพจำของผีไทยและผีเอเซียเลยก็ว่าได้ โดยยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของความแค้น อาฆาตพยาบาท ที่ทำให้วิญญาณยังไม่ไปไหนแล้วก็เฝ้าวนเวียนอยู่รอบๆสถานที่หรือบุคคลที่ตนผูกพัน สำหรับองค์แรกที่ ลี ทองคำ ตั้งใจทำเป็นหนังผีแบบไทยๆย้ำตุ้งแช่เอาให้หัวใจวายกันไปข้างนึงโดยความเป็นจริงแล้ว เราจะดูความผิดแปลกในอะไรได้หลายๆอย่าง ตั้งแต่ตุ๊กตาลิงท่าทางน่าสยองและก็แถมมีวิญญาณลิงอีกส่วนการแต่งตัวของคุณผู้หญิงอุมา
ก็เด่นชัดเลยว่ามันแสดงถึงความไม่ปกติตั้งแต่ดีไซน์แล้ว โดยเฉพาะชุดที่แต่งตัวอย่างกับอยู่ยุโรปในขณะที่ตนเองอยู่เมืองไทย เหมือนปรารถนา “หนี” จากอะไรสักอย่าง แม้กระนั้นแทนที่จะเป็นการวิ่งเสมือนหญิงรับใช้อย่าง จอย เธอกลับใช้การแต่งตัวเพื่อหลีกรวมทั้งทีละน้อยพอเพียงเรื่องราวไปเฉลยคำตอบเงื่อนในองก์ที่ 2 เราจะเข้าหัวใจได้เลยว่าเพราะเหตุใดการแต่งตัวของเธอถึงดูเป็นไม่ลานแฟชันวีคขนาดนี้ด้านคุณชาย
แม้ว่าจะดูถูกเหยียดหยามทำให้ด้อยหน้าที่ไปนิด แต่ว่าการปูพื้นว่าตัวเองเป็นเสมือนเบี้ยล่างของภรรยาตลอดระยะเวลาก็แสดงถึงการเช็ดกลดทอนอำนาจ โดยเฉพาะการที่หนังให้สถานะเป็นสามีที่เกาะเมียกินก็แน่ๆล่ะ การ “หนี” ที่เยี่ยมที่สุดในช่วงเวลาที่ตนเองขยับไปไหนก็ตรากตรำอาจจะไม่พ้นการ ดื่มเหล้า ที่ช่วยพรากสติที่ซ้ำเติมความต้อยต่ำ และก็แน่ๆรวมถึง “ความผิดบาป” ที่จะเฉลยในองก์ที่ 2 ด้วย
รีวิว The Gentlemen – สุภาพบุรุษมาหากัญเครดิตขึ้นยังยิ้มไม่หุบอย่างยิ่งจริงๆ
ยิ้มให้ในความเยี่ยมของบท ความยอดเยี่ยมของผู้แสดง เรื่องราวที่เดามิได้ และก็ความมีสไตล์ของหนังหัวข้อนี้ นี่คือ The Gentlemen กับกราบจิตใจคนคิดชื่อไทยจริงๆสุภาพบุรุษมาหากัญ เรื่องราวของเจ้าพ่อกัญชาแห่งเกาะอังกฤษ ที่พร้อมจะวางมือด้วยเหตุว่าถึงจุดอิ่มตัวต้องการไปดำเนินชีวิตกับลูกๆและก็จะขายอาณาจักรนี้ แต่เมื่อข่าวสารหลุดออกไป จึงกำเนิดเป็นเรื่องวุ่นๆศึกฉกชิงอาณาจักรกัญชานี้ The Gentlemen เป็นผลงานลำดับที่ 11 ของ Guy Ritchie
ที่กลับมาทำดูแลแล้วก็เขียนบทงานที่ถนัดอีกที ดูหนัง Batman The Long Halloween Part Two (2021) หลังจากที่หลุดแนวไปซะหน่อยใน Aladdin (2019) เอาจริงเอาจังๆเรื่องนั้นถ้าเกิดไม่บอกว่า Guy Ritchie พวกเราไม่เคยรู้เลยจริงๆแม้กระนั้นคราวนี้เขากลับมาทำหนังแนวอาชญากรรม หักเหลี่ยม เชือดคม เหมือนกับผลงานแจ้งกำเนิดของเขาอย่าง Lock, Stock and Two Smoking Barrels (1998), Snatch (2000) ถ้าหากคนไหนกันเคยดู ก็จะเข้าดวงใจว่า The Gentlemen เป็นยังไง
ด้วยเหตุว่ามันคือแนวแบบงั้นแหละ มาเริ่มกันที่ความน่าดึงดูดใจแรกของหนังเลย กับนักแสดง เป็นถ้าตัดชื่อผู้กำกับ แนวหนัง เรื่องราวออกไป แค่ตัวละครก็อยากดูแล้ว มีทั้ง Matthew McConaughey, Charlie Hunnam, Michelle Dockery, Jeremy Strong, Colin Farrell, Henry Golding และ Hugh Grant หนังมีคาแรคเตอร์แต่ละตัวละครที่กระจ่างแจ้งมาก บทเปิดตัวของแต่ละคนยิ่งรับประกัน รวมทั้งเป็นเครื่องบ่งบอกความเป็นตัวตนของแต่ละคนได้อย่างดีเยี่ยม
แถมยังมีการแบ่งบทที่ดีอีกต่างหาก อีกอย่างเป็นความมีสไตล์ การแต่งตัวของผู้แสดงที่เท่ชะมัด คือแต่ละคนยังกะเดินแฟชั่นวีคยังไงยังงั้นหนังดำเนินเรื่องตามสไตล์ของ Guy Ritchie เลย โดยประเด็นนี้จะเป็นการดำเนินเรื่องผ่านการบอกกล่าวของ Fletcher (Hugh Grant) ที่พยายามจะแบลคเมล Mickey Pearson (Matthew McConaughey) เจ้าพ่อกัญชา โดยการสนทนาผ่านทาง Ray (Charlie Hunnam) ซึ่งบทพูดนั้นเต็มไปด้วยความฮา
ความยียวนกวนประสาท แบบเล่าๆอยู่ปวดฉี่ขอไปเข้าห้องน้ำงี้ และก็ยังมีท่วงทีสำหรับการเล่าที่เข้าใจไม่ยาก แม้กระนั้นเพลิดเพลินชะมัด เป็นไม่ได้คิดตามจนจำเป็นต้องปวดศีรษะ แต่ว่าก็ไม่ใช่เรื่องง่ายกระทั่งเดาออก อ้อ จำเป็นต้องบอกไว้ก่อนว่าบทสนทนาหัวข้อนี้มากไม่น้อยเลยทีเดียว ถือเป็นเรื่องที่เยอะที่สุดในบันดาหนังของ Guy Ritchie เลยก็ว่าได้ เป็นมีบทสำหรับพูดทุกวินาทีเลยว่างั้นเถอะ ตัวบทเองมีการหักเหลี่ยมเฉือนคม
คนนั้นคนนี้เข้ามาเกี่ยวเนื่อง แล้วก็ทุกส่วน ทุกเหตุ มีแม้กระนั้นเรื่องสนุกๆทั้งนั้น สรุปแล้วมันเป็นหนังสไตล์ Guy Ritchie ที่รู้จักดี มีทั้งยังความสนุก สำราญใจ ตลกร้าย ฮา หรู มีสไตล์ บทพูดกวนๆเป็นถ้าคุณไม่เคยติดตามผลงานของเขา คุณจะรู้จักเขา ยืนยันว่าตลอดแทบ 2 ชั่วโมง คุณจะได้รับความเพลิดเพลินเต็มที่แน่ๆ ปล. จะกล่าวหาอวยก็ได้นะ
เนื่องจาก Guy Ritchie เป็นผู้กำกับคนโปรดของเรา เรื่องที่ผ่านมาอย่าง Aladdin เราก็เกลียดนะ ก่อนหน้านั้น King Arthur ก็ใช้ได้แต่ก็ไม่ถึงขั้นเรื่องนี้ 555 แต่ว่าประเด็นนี้มันสนุกสนาน เบิกบานรวมทั้งถูกจริตพวกเราจริงๆทดลองไปสัมผัสด้วยตัวคุณเองดีมากยิ่งกว่า ปล. 2 ที่คะแนนหายไปนิดหนึ่งเพราะว่ามีช่วงท้ายของหนังพวกเราสงสัยบางอย่างบางส่วน (บอกไม่ได้ประเดี๋ยวสปอยล์)
รีวิวหนัง Judas and the Black Messiah – หนังโคตรดี เนื้อหาสะเทือนอารมณ์ สนุกจนกระทั่งน่าหวาดกลัว
เขาจะพยุงพลังที่ความดีงามเอาไว้ได้ หรือ สยบหมูแฮมป์ตันกับเดอะ แพนเตอร์ส Judas and the Black Messiah จูดาส แอนด์ เดอะ กางล็ก เมสไซอาห์ เปิดเรื่องมาจะเป็นการที่ วิลเลียม โอ’นีล ตัวจริงมานั่งเล่าสถานะการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในตอนนั้นครับผม แล้วหนังก็จะพาเราไปรู้จักกรุ๊ปคณะปฏิวัติและก็ต่อสู้เพื่อชาวผิวสี ที่นำโดย เฟรด แฮมป์ตัน ขอบอกที่ตรงนี้เลยว่าหนังเรื่องนี้สะท้อนสังคมได้แบบเจ็บปวดมากมายๆกับความไม่ประสบผลสำเร็จของกระบวนการยุติธรรมได้แบบชัดแจ้ง
ที่ดูแล้วจำเป็นต้องอึ้งกันเลยทีเดียว แล้วสิ่งที่หนังประเด็นนี้ทำเป็นดีมากๆอีกอย่างก็คือการสะกดคนดูนะครับ พาผู้ชมดำดิ่งลงไปที่แบบหาทางขึ้นไม่พบเลยการเล่าเรื่องของหนังก็ค่อนข้างจะเรียบง่ายแม้กระนั้นแอบแฝงไปด้วยพลังและยังมีแมสเสจที่เชื้อเชิญขนลุกเยอะไปหมดเช่น “ตรงไหนมีราษฎร ที่นั้นมีอำนาจ” อันนี้เป็นแค่น้ำจิ้มส่วนผู้ใดที่ต้องการทราบว่ามีคำไหนอีกบ้างจำต้องไปทดลองสัมผัสกันเองครับผม
แต่ว่าขอเตือนว่ามีขนลุกแน่ๆมาต่อกันกับด้านต่างๆของหนังขอรับด้านฉากต่างๆหนังทำเป็นบรรเจิดไม่มีจุดบกพร่องเลยพาผู้ชมย้อนเวลากลับไปใน คริสต์ศักราช 1968-1971 ได้เพอร์เฟ็คอีกทั้งรถยนต์ทั้งยังการแต่งกายที่แอบเท่ห์พอได้อย่างยิ่งจริงๆ ด้านดาราจะต้องขอตบมือให้เลยครับผมทั้ง ลาคีธ สแตนฟิลด์ และ แดเนียล คาลูยา ทั้งสองแสดงออกมาก้าวหน้ามากมายๆยิ่งเป็นฉากในโบสถ์ แดเนียล ค้างลูยา ทำได้ดีเลิศๆครับผม
ยิ่งทำให้ผู้ชมอินแบบไม่ทราบจะอินอย่างไรเลยล่ะช่วงท้ายของหนังบอกเลยบีบหัวใจผู้ชมมากๆลุ้นแบบสุดๆทั้งความดาร์กทั้งเศร้า แต่ว่ามันเป็นความเป็นจริงที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และก็ไม่มีผู้ใดสามารถกลับไปปรับปรุงมันได้ แล้วหนังก็ยังมาเข้าฉายในช่วงเวลาที่ถูกดังจับวางกันอย่างยิ่งจริงๆ ยิ่งทำให้หนังประเด็นนี้มองน่าดึงดูดมากขึ้นไปอีกนะครับ แล้วคนใดกันที่ต้องการสัมผัสหนังที่บางทีอาจจะเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมในปีนี้
และก็ ถูกใจหนังที่สร้างขึ้นจากประวัติศาสตร์จริงๆอย่างนี้ ก็ไม่สมควรพลาดกับ Judas and the Black Messiah จูดาส แอนด์ เดอะ กางล็ก เมสไซอาห์ Judas and the Black Messiah จูดาส แอนด์ เดอะ กางล็ก เมสไซอาห์ หนังโคตรดี มากับเนื้อหาสะท้อนสังคมที่โคตรเจ็บของความต่ำช้าของกระบวนการยุติธรรม ที่แม่งเรียวมากๆดูแล้วอิน อิน(เรือ)หาย กันเลยทีเดียว ไม่ต้องการให้พลาดกันจริงๆกับหนังประเด็นนี้
กลับสู่หน้าหลัก https://catcamthemovie.com/
